มีหนังสือน่าสนใจ 2 เรื่องมาให้ลองอ่านกันดูสำหรับท่านผู้อ่านที่ชอบที่จะเรียนรู้เรื่องราวของอาชีพต่างๆ เรื่องแรกคือ สาวใช้สีแสด นักสู้ตัวน้อย หญิงสาวจากบ้านนาผู้มีความฝันอยากจะมีเงินทองเพื่อพาแม่ของเธอหนีไปจากผู้ชายคนนั้น ทำให้เธอต้องเข้ามาเป็นสาวใช้ในเมืองใหญ่ที่นายจ้างแต่ละคนนั้นต่างเห็นเธอเป็นเพียงแรงงานที่จ้างมาทำงานเท่านั้นหาใช่คนไม่ บางแห่งโหดร้ายจนเธอทนไม่ไหวก็ต้องลาออกก่อนครบเดือนนายจ้าง ผู้เห็นแก่ตัวก็ไม่ยอมจ่ายค่าแรงให้เธอด้วยอ้างเหตุผลเพียงว่าเธอทำงานไม่ครบเดือน โลกนี้ช่างโหดร้ายกับคนที่ไร้ทางสู้ยิ่งนัก แต่ด้วยกำลังใจของเธอดังคำพูดที่ว่า
“เสี่ยงอีกกี่ครั้งจะเป็นไร เรายังมีแรงกาย แม้ยามค่ำคืนจะเหนื่อยล้าเพียงใด พอรุ่งเช้ากำลังกายก็จะมีขึ้นมาอีก ตราบที่ยังกินข้าวได้และไม่เจ็บป่วย ส่วนกำลังใจนั้นต้องคอยปลุกปลอบและสร้างเอง เพราะหากขาดหรือไม่มีเสียแล้ว ไหนเลยจะมีสิ่งนำพากายให้ลุกเดินและสู้เพื่ออนาคตที่สุดจะริบหรี่อยู่แล้วนั้นได้” (บท41 น.138-139)
รายละเอียดหนังสือ "สาวใช้สีแสด"
ซึ่งเป็นคำพูดที่ให้กำลังใจแก่คนท้อแท้ได้เป็นอย่างดีนับว่าเป็นหนังสือที่น่าอ่านมากเล่มหนึ่งและยังการันตีด้วยการติดอันดับ 1 ใน 5 ของการประกวดรางวัล “ชมนาด” ครั้งที่ 4 อีกด้วย
ส่วนเรื่องที่สอง เขาตราหน้าว่าหมอฆ่าคน เป็นเรื่องราวของ พญ.สุดานี บูรณเบญจเสถียร หรือ "หมอเซียง" ซึ่งถูกฟ้องร้องคดีอาญาในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวและตั้งใจทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ปี 2550 จากการเป็นแพทย์ทำคลอดของคนไข้รายหนึ่งซึ่งเสียชีวิตในวันมาคลอดลูก ซึ่งในระหว่างที่ต่อสู้คดีนั้นเธอได้จดบันทึกเรื่องราวของเธอเป็นไดอารี่ไว้ตลอดเวลา 3 ปี ที่สั่นคลอนจิตใจของเธอและครอบครัวด้วยคำว่า “ฆาตกร” เป็นเหตุให้เธอและครอบครัวต้องแตกแยกกันไป จนกระทั่งในวันที่พายุร้ายได้สงบลง บัดนี้เธอได้รวบรวมกำลังใจจนเข้มแข็งดีแล้ว และได้ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆที่เธอได้เผชิญมาตลอด 3 ปีอันโหดร้ายในความรู้สึกออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้แล้ว และยังการันตีด้วยรางวัล “ ชมนาด” อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งเล่มที่น่าอ่านเช่นกัน
รายละเอียดหนังสือ "เขาตราหน้าว่าหมอฆ่าคน"
บทความ : ณิชกมล เตชะงามสุวรรณ