คุณธนา ถาวร เจ้าของร้านได้บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการเปิดร้านว่า ด้วยความชอบอ่านหนังสือเป็นนิสัยเดิมอยู่แล้ว กอปรกับเติบโตที่เมืองนี้มาตั้งแต่เด็ก ผูกพันกับร้านหนังสือใหญ่อย่างร้านสุริวงศ์บุ๊คเซ็นเตอร์ (จ. เชียงใหม่) ซึ่งไปกับคุณแม่เป็นประจำ จึงเกิดความรู้สึกว่าร้านหนังสือในจังหวัดตนเองควรจะมีหนังสือนิทาน มีคู่มือประกอบการเรียนสำหรับนักเรียน เพราะตอนนั้นเป็นนักเรียน หาซื้อหนังสือยากมาก นอกจากรอไปซื้อกับร้านที่เชียงใหม่กับคุณแม่ จากจุดเล็กๆ จุดนี้จึงนำมาสู่การเปิดร้านหนังสือแห่งนี้ในที่สุด
มาตรฐานของร้านในที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจ
ด้วยความที่เป็นร้านหนังสือขนาดเล็ก ปริมาณหนังสือไม่มาก หมวดหนังสืออาจจะไม่ครบถ้วนเท่าร้านใหญ่ๆ แต่ก็มีบริการรับสั่งซื้อและฝากซื้อสำหรับคนที่ไม่มีเวลาไปหาซื้อหนังสือที่ต้องการ ทำให้ตรงนี้กลายเป็นจุดเด่นของร้าน และสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ในระดับหนึ่ง
หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกหนังสือเข้าร้าน
ทางร้านจะพิจารณาดูกลุ่มลูกค้าเป็นหลัก ว่าต้องการหนังสือประเภทใดบ้าง ก็จะนำหนังสือประเภทนั้นๆ มาจำหน่าย หากหนังสือหมวดใดไม่มีการเคลื่อนไหว เช่น หนังสือวิชาการเฉพาะด้าน หนังสือวิชาการทางช่าง (เพราะกลุ่มลูกค้าไม่ค่อยมี) ก็จะไม่ค่อยนำวางจำหน้าหน้าร้าน
มองอนาคตร้านหนังสือในเมืองบ้านเราอย่างไร ถ้าจะเปิดร้านหนังสือในยุคเศรษฐกิจ แบบนี้สมควรจะเปิดร้านหนังสือหรือไม่?
คุณธนา ได้ให้ทัศนะว่า "ถ้าคิดแบบนักธุรกิจ คือ หวังร่ำรวยจากธุรกิจนี้ ก็ไม่ควรเปิด แต่ถ้ามีอุดมการณ์นิดๆ แล้วมีเงิน (ไม่เดือดร้อนในแง่เศรษฐกิจ) ก็เปิดได้ "
ความฝันกับความจริงของคนอยากมีร้านหนังสือเป็นของตนเอง
"คิดว่าเป็นไปได้ ถ้าไม่พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจ(ในกระเป๋า) หมายถึง ถ้าตึกไม่ต้องเช่า ไม่ต้องผ่อน ค่าใช้จ่ายในร้านไม่สูงนัก เจ้าของร้านดูแลร้านเอง" คุณธนากล่าว
จากเหตุการณ์ที่ทราบกันว่า สำนักพิมพ์เล็ก ๆ บ่นกันมาว่า ... ร้านหนังสือ (โดยเฉพาะร้านหนังสือที่มีสำนักพิมพ์เป็นของตัวเอง) มีความลำเอียงอย่างมากในการจัดวางหนังสือ คือ ไม่โชว์ปกหนังสือสำนักพิมพ์ต่าง ๆ ให้ทั่วถึง มักโชว์แต่ปกหนังสือของสำนักพิมพ์ตนเอง ทำให้ร้านหนังสือนั้นเป็นเสมือนโชว์รูมสินค้าของตน ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นร้านหนังสือหรือแหล่งรวมภูมิปัญญาของชุมชนที่แท้จริง
คุณธนา กล่าวว่า "รู้สึกเฉยๆ เพราะว่าในแง่ของคนอ่าน (คือสมมติตัวเองว่าเป็นลูกค้า) จะเลือกอ่านเอง เดินอ่านเอง ถึงจะอยู่ในชั้นทั่วไปโดดเด่น อยู่ล่างสุดหรือวางอยู่ในมุม ก็ไปหยิบมาดูได้ ไม่จำเป็นต้องเอามาโชว์) แต่ถ้าคิดในแง่เจ้าของร้านก็อยากโชว์ปกที่กำลังนิยม กำลังดัง กำลังออกใหม่ น่าสนใจมาวางให้ลูกค้าดู เพราะลูกค้าบางคนก็ไม่ชอบหาหนังสือเอง สนใจเฉพาะที่โชว์ หรือบางคนก็ถามอย่างเดียว วางโชว์ไว้ก็ยังไม่เห็นเลย"
อยากจะฝากอะไรถึงคนที่อยากจะเริ่มต้นเปิดร้านหนังสือเล็ก ๆ เป็นของตนเอง
คุณธนา บอกว่าควรจะเริ่มจากความชอบ ความรัก (เหมือนอุดมการณ์) เพราะถ้าอยากรวยนี่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ประการต่อมาก็คือ มีความพร้อมเรื่องเงินลงทุนพอสมควร
จากประสบการณ์ที่เคยไปสัมภาษณ์ร้านหนังสือต่างๆ แล้ว มีเสียงบ่นมากว่าได้รับความกระทบ กระเทือนจากการออกสัญจร ของขบวนการคาราวานของสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ ไม่ทราบว่ามีความคิดอย่างไร เกี่ยวกับเรื่องนี้
คุณธนา กล่าวว่า "ส่วนตัวคิดว่าไม่กระทบมากเท่าไหร่ เพราะการออกสัญจรก็เท่ากับรณรงค์ให้คนกระตื้อรือร้น เรื่องการอ่านหนังสือ โดยรวมของธุรกิจจะได้ดีขึ้น เพราะคนให้ความสนใจหนังสือมากขึ้น ส่วนใหญ่ในเรื่องการแข่งขัน มันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เดี๋ยวนี้ที่ จ.เชียงใหม่ มี บิ๊กซี โลตัส คาร์ฟู ฯลฯ ทุกห้างมีมุมหนังสือหมด ขายถูกด้วย มันก็กระทบกระเทือนมากอยู่แล้วล่ะ"
ทางสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น ขอขอบพระคุณทางร้านหนังสือสวนอักษรลำพูน ที่ได้กรุณาเสียสละเวลาให้สัมภาษณ์ ทำให้เราได้รับรู้ถึงทัศนะ และความจริง ตลอดจนข้อคิดเห็นจากคนทำร้านหนังสือ ในครั้งนี้ด้วยครับ...