บก. ปริทัศน์ เดือนกุมภาพันธ์ 2557 : บก. ปริทัศน์ เดือนกุมภาพันธ์

บก. ปริทัศน์ เดือนกุมภาพันธ์ 2557

       ก้าวเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์  ถ้าเปรียบเทียบวันสำคัญที่อยู่ในเดือนนี้ระหว่างวันที่ 14 ก.พ.หรือ "วาไลน์ไทน์" ของชนชาติตะวันตก กับ "วันมาฆบูชา" ของชนชาติไทย ต้องยอมรับว่า หลายปีที่ผ่านมาความนิยมของวันวาเลนไทน์มักจะนำโด่งวันมาฆบูชาเสมอๆ  อย่างเช่นดูได้จากราคา "ดอกบัว"วันมาฆบูชากำละเพียงไม่กี่บาท กับ "ดอกกุหลาบ" ในวันวาเลนไทน์ซึ่งราคาดอกละเป็นพัน สะท้อนได้ชัดว่าคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเยาวชนให้ความสำคัญและรู้จักวาเลนไทน์มากกว่าวันมาฆบูชามาก ชนิดที่เทียบกันไม่ติด แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่เสพกระแสความนิยมจากต่างชาติ และสนใจในเรื่องของความรัก อารมณ์ และเน้นแต่การบริโภคนิยมในเชิงวัตถุนิยมมากกว่า ที่น่าตกใจคือมันแพร่กระจายไปสู่คนรุ่นใหม่ได้เร็วมากๆ  
      จนวันนี้ศาสนาก็ยังไม่ปรับตัวให้สื่อสารกับคนรุ่นใหม่  ที่สำคัญวันนี้ยังไม่มีใครสามารถนำเอาสาระสำคัญทางพระพุทธศาสนามาโยงเข้ากับชีวิตประจำวันของคนทั่วๆ ไปได้อย่างกลมกลืน นี่คือจุดอ่อนใหญ่ของศาสนาที่ยังไม่มีใครเข้ามาแก้ไขได้สำเร็จ แต่ความจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องเข้าวัดก็ได้ แค่เราทำดี ละเว้นชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธ์ มีจิตอันเป็นอาสา เท่านี้ อยู่ที่ไหนก็สามารถทำได้เหมือนกัน อันที่จริง สองวันนี้มีการเกี่ยวพันในเรื่องของความรักเสียด้วยซ้ำ โดยวันมาฆบูชานั้นได้แสดงให้เห็นถึงความรักแต่เป็นความรักทางธรรม อันส่งผลให้ตนเองเป็นคนดีมีศีลธรรม ถ้าสังเกตดี ๆ แล้ว ก็จะเห็นว่าเป็นการแสดงความรักต่อตนเองในการละเว้นกิเลสที่จะมาทำให้ตนเองเป็นทุกข์ ส่วนในวันวาเลนไทน์นั้น ก็ได้กล่าวถึงความรัก โดยเป็นความรักที่มอบให้กับคนอื่น ความรักที่มอบให้โดยไม่หวังผลตอบแทน อันทำให้เรารู้สึกดีและสบายใจที่ได้กระทำ ความรักที่เป็นพื้นฐานของทั้งสองวัน จะเห็นได้ว่าสามารถนำมาเป็นจุดหนึ่งในการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนได้ แม้ว่าทั้งสองวันนี้จะเป็นวัฒนธรรมที่แตกต่างกันก็ตาม
       และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด บก. บัญชร ยังครุ่นคิดและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การส่งเสริมในเรื่องนี้ จะทำให้ภาพลักษณ์ของวันทั้งสองวันเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และวัฒนธรรมไทยคงไม่ตายไปจากความคิดของคนรุ่นใหม่ได้ด้วยวัฒนธรรมของต่างชาติที่เข้ามานะคะ

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ