THE NALANDA LIBRARY
นาลันทามหาวิหาร (มหาวิทยาลัยนาลันทา) ที่นาลันทา, รัฐพิหาร (Archaeological Site of Nalanda Mahavihara (Nalanda University) at Nalanda, Bihar) ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของอินเดีย ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วง 300 ปีก่อนคริสต์ศักราชจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นสถานที่สอนพุทธศาสนา แต่ภายหลังล่มสลายลงเพราะถูกรุกราน จากทหารชาวเติร์ก
THE MAYA CODICES
ที่เก็บคัมภีร์ของอาณาจักรมายา คัมภีร์ของชาวมายาถูกเรียกว่า “โคเด็กซ์” (Codex) มาจากภาษาลาตินว่า “caudex” หมายความถึงลำต้นของต้นไม้ ซึ่งก็คือ วัสดุตั้งต้นที่ใช้ผลิตกระดาษนั่นเอง ในอดีต ชาวมายาโบราณจดบันทึกองค์ความรู้ต่างๆ ลงไปในคัมภีร์เปลือกไม้เช่นนี้จำนวนมาก แต่จนแล้วจนรอดนักมายันวิทยาพบว่า มีคัมภีร์ที่เหลือรอดหลังจากที่อาณาจักรมายาโบราณล่มสลายลงไปเพียงแค่ 4 ฉบับเท่านั้นเอง ผู้ที่ทำลายคัมภีร์ของชาวมายาโบราณก็คือ ชาวสเปนที่บุกเข้าไปในช่วงของการล่าอาณานิคม เมื่อพวกเขาได้เห็นชาวมายาโบราณศรัทธาในศาสตร์นอกรีต จึงได้นำคัมภีร์ที่เก็บงำองค์ความรู้มหาศาลของชาวมายาโบราณมาเผาทิ้งจนเกือบหมดสิ้น (แต่ก็โชคดีที่คัมภีร์ยังคงหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน 4 ฉบับ) แต่ถึงอย่างนั้นก็จินตนาการได้ไม่ยากเลยว่า ศาสตร์โบราณที่ชาวมายาเคยบันทึกเอาไว้เมื่อหลายพันปีก่อนนั้น ได้สูญสลายหายไปกับกองเพลิงที่ชาวสเปนได้จุดขึ้นมา ในช่วงของการล่าอาณานิคมเรียบร้อยแล้ว
INSTITUT FÜR SEXUALWISSENSCHAFT
สถาบันการวิจัยทางเพศในเบอร์ลิน เป็นการทำลายความรู้และเป็นฐานให้กับเหตุการณ์เลวร้ายต่อเพศทางเลือกเป็นเวลาหลายศตวรรษทั้งในอเมริกาและยุโรป
จุดเริ่มต้นของสถาบันการวิจัยทางเพศ
สถาบันแห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1919 โดย Magnus Hirschfeld และ Arthur Kronfeld สถาบัน Institut für Sexualwissenschaft เป็นผู้บุกเบิกในการเรียกร้องให้เกิดความเท่าเทียมต่อกลุ่มเพศทางเลือกในช่วงศตวรรษที่ 20 ซึ่ง Hirschfeld ได้รวบรวมงานวิจัยและแบบสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติทางเพศของประชาชนหลายพันคน ผู้ป่วยจำนวนมากหันเข้าหาสถาบันแห่งนี้เพื่อรับการบริการทางแพทย์ ซึ่งรวมตั้งแต่การรักษาไปจนถึงการให้คำปรึกษาด้านการแต่งงาน
ผู้นำสถาบันทำให้เกิดความก้าวหน้าอย่างมากในช่วงปี 1920 และช่วงต้นของยุค 1930 พวกเขาช่วยหยุดยั้งการจับกุมประชาชนที่เรียกในปัจจุบันว่าเพศทางเลือก นอกจากนั้นทางสถาบันยังมีการช่วยเหลือด้านบริการทางการแพทย์สำหรับคนที่ต้องการจะเปลี่ยนเพศของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครทำในขณะนั้น
พรรคนาซีทำลายทุกสิ่งแบบที่พวกเขาทำ
แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้นได้นานนัก ในช่วงต้นของยุคปี 1930 การขึ้นมามีอำนาจของพรรคนาซีเป็นฝันร้ายของความรู้และอิสรภาพ เหล่านาซีทำการโจมตีสถาบันที่เกี่ยวกับเพศทางเลือกและจับตัวทุกคนที่พวกเขาเชื่อว่าไม่มีความ”เป็นปกติ”ที่เพียงพอ ผู้บริหารสถาบัน Kurt Hiller ถูกจับตัวไปยังค่ายกักกัน แต่สุดท้ายสามารถหลบหนีไปยังปรากและลอนดอนได้
จุดจบของทุกสิ่งเกิดขึ้นในปี 1933 เมื่อสหภาพนักศึกษาเยอรมัน หรือกลุ่มนาซีรุ่นเยาว์ทำการโจมตีอาคารสถาบันในวันที่ 6 พฤษภาคม ทำให้เกิดการแยกกันระหว่างนักวิจัยและผู้ป่วย พรรคนาซีได้ทำการขโมยข้อมูลต่าง ๆ ที่ช่วยให้พวกเขาจับกุมกลุ่มคนที่น่าสงสัยได้ และพวกเขาก็ทำการเผาหนังสือในวันที่ 10 พฤษภาคม
กองไฟดังกล่าวทำลายหนังสือกว่า 20,000 เล่มและภาพต่าง ๆ กว่า 5,000 ภาพ ความรู้ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ถูกทำลายลงในไม่กี่นาที ในขณะเดียวกัน พรรคนาซีก็มีการประการคำสั่งให้ทำลายหนังสือื่น ๆ ที่ละเมิดความเชื่อของพวกเขา ทั้งชาวยิว หนังสือเกี่ยวกับความสงบ และหนังสือเกี่ยวกับความก้าวหน้าอื่น ๆ เช่นหนังสือเกี่ยวกับอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และคาร์ล มากซ์ ในปัจจุบัน สถานที่ในการเผาถูกสร้างเป็นอนุสรณ์โดยเป็นกระจกล้อมรอบชั้นหนังสือที่ว่างเปล่า แผ่นเหล็กใกล้ๆเขียนไว้ว่าการเผาหนังสือเปรียบเสมือนการเผาผู้คน
THE LIBRARY OF ALEXANDRIA
นักโบราณคดี ได้ขุดพบซากโบราณสถานที่เชื่อว่าเป็นซากของ หอสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย หรือ ห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย (Library of Alexandria) ซึ่งเป็นแหล่งความรู้ และ วิทยาการของโลกแห่งแรกของโลก และเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่สำคัญมากแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้จัดทำรายการหนังสือ นับว่าเป็นการจัดบรรณานุกรมที่เกิดขึ้นครั้งแรกของโลกเลยล่ะ
ทีมนักโบราณคดีของโปแลนด์และอียิปต์ ทำการขุดค้นบางส่วนของ เมืองอเล็กซานเดียร์ ซึ่งตั้งอยู่ริมชายฝั่ง ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และได้พบสิ่งก่อสร้างซึ่งมีลักษณะคล้าย ห้องเรียน และหอประชุม ราว 2,000 ปีที่แล้ว ห้องสมุด แห่งนี้เคยเป็นศูนย์รวมของ นักคิด นักเขียนแห่งโลกโบราณ เป็นที่สะสมผลงานสำคัญๆของนักปราชญ์กรีก ทั้งของ พลาโต โซเครติส และของอีกหลายๆ คน แต่น่าเสียดายที่ผลงานเหล่านั้นถูกเผาทำลายไปพร้อมกับตัวห้องสมุด
จากการขุดค้นนักโบราณคดีค้นพบห้องเรียนขนาดใหญ่ถึง 13 ห้อง ซึ่งสามารถจุนักเรียนได้ถึง 5,000 คน แต่ละห้องมีเวทีสำหรับอาจารย์ หรือครูที่จะใช้สำหรับยืนสอนนักเรียน นับเป็นครั้งแรกที่มีการขุดพบห้องเรียนยุคกรีก-โรมัน ลักษณะนี้ในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งนาย Zahi Hawass ประธานสภาวัตถุโบราณของอียิปต์ กล่าวว่าซากที่พบนั้น “อาจจะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลกก็ว่าได้”
เมื่อราว 300 ปีก่อนคริสตกาล พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ได้ชัยชนะเหนือกรีก เอเชียไมเนอร์ และอียิปต์ และเมื่อยึดครองอียิปต์ได้ ก็สร้างเมืองหลวงที่ทรงตั้งพระทัยให้เป็นเมืองที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก คือเมืองอเล็กซานเดรีย และตั้งราชวงศ์ปโตเลมี (Ptolemy) ขึ้นปกครองอียิปต์ต่อมาจนสิ้นสุดที่พระนางคลีโอพัตรา ซึ่ง ปโตเลมี เป็นนักภูมิศาสตร์ นักดาราศาสตร์ และนักโหราศาสตร์ชาวกรีกโบราณ