ในช่วงใกล้ปีใหม่ หลายคนคงอยากตั้งเป้าหมายให้ตัวเองในหลาย ๆ เรื่อง ในเรื่องการอ่านหนังสือก็เช่นเดียวกัน ผู้ที่เป็นนักอ่านคงมีปัญหาคล้าย ๆ กัน เช่น การตั้งเป้าหมายให้อ่านหนังสือได้ 50 เล่มต่อปี มีหลายคนทำได้มากกว่านี้ แต่มีบางคนที่ไม่สามารถทำตามเป้าที่ตัวเองตั้งไว้ ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง แต่การอ่านหนังสือได้จำนวนมาก ๆ อาจไม่ได้ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น แล้วเราจะเป็นนักอ่านที่มีความสุขได้อย่างไร
1. บาลานซ์การอ่านหนังสือของตัวเอง
เช่นเดียวกับการทานอาหาร บางทีเราก็อยากกินแต่ของที่มีประโยชน์ แต่บางทีเราก็อยากกินของหวานๆ น้ำตาล แป้งเยอะในบางโอกาส การอ่านก็เช่นเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องบีบบังคับตัวเอง ให้อ่านใดเล่มนึงให้จบ แต่อาจสลับประเภทของหนังสือ หรือเล่มไหนที่ไม่อยากอ่านแล้วให้พักวางทิ้งไว้ เผื่อมีวันไหนที่เราอยากกลับมาอ่านค่อยหยับมาอ่านต่อ
2. อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสม
ที่เราไม่ชอบอ่านหนังสือ อาจเป็นเพราะบรรยากาศรอบตัวไม่เอื้ออำนวย หรือเป็นสถานที่ที่เรายังไม่ถูกใจ ถ้าไม่ชอบอ่านในห้องเงียบ ๆ ลองไปหาร้านกาแฟนั่งอ่านหนังสือ หรือชอบอ่านหนังสือในห้องลองปรับเปลี่ยนการแต่งห้องใหม่และหาเครื่องดื่มที่ถูกใจ จิบระหว่างอ่านหนังสือ วางโทรศัพท์ให้พ้นจากสายตา อาจช่วยเปลี่ยนบรรยากาศได้ไม่มากก็น้อย
3. จัดเวลาออกเดทกับหนังสือ
ลองวางแผน จัดตารางหาเวลาที่ตัวเองว่างจากกิจกรรมอย่างอื่น เพื่อที่จะได้มีเวลาอ่านโดยไม่ต้องเร่งรีบ เช่นทุกคืนวันอังคารคุณจะให้เวลาอ่านหนังสือเต็มที่
4. ลองจดบันทึกสิ่งที่คุณอ่าน
เคยเป็นไหมอ่านหนังสือบางเล่มจบไปแล้ว แต่ดันลืมว่าเนื้อหาสาระสำคัญข้างในมีอะไรบ้าง ลองจดบันทึกข้อความที่คุณชอบ หรือลองจดสรุปเอาไว้ เผื่อว่าวันไหนลืมจะได้หยิบกลับมาเปิดดูอีกครั้งโดยไม่ต้องอ่านหนังสือทั้งเล่มอีกรอบ
5. พบปะผู้คนที่รักการอ่านเหมือนกัน
ลองไปร้านหนังสือ หรือพูดคุยกับคนที่ชอบอ่านหนังสือประเภทเดียวกับเรา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แบ่งปันประสบการณ์ หรือแนะนำหนังสือเล่มอื่น ๆ ให้ซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ตามเราไม่ควรกดดันตัวเองมากเกินไป เพราะอาจทำให้เรากลายเป็นคนที่ไม่มีความสุขในการอ่านและล้มเลิกการไปให้ถึงเป้าหมาย ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของเรามากขึ้น เพื่อทำให้การอ่านกลับมาสนุกอีกครั้ง