Whitney Tilson เป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงตลอดจนเป็นนักเขียนและผู้ใจบุญ เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนของนักลงทุนรายอื่นเช่น Warren Buffet Tilson ประสบความสำเร็จในการซื้อขายและบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลของลูกค้า
นอกเหนือจากการเป็นผู้ลงทุนที่ประสบความสำเร็จ Tilson ได้กลายเป็นนักเขียนธุรกิจและการเงินที่อุดมสมบูรณ์ เขาได้ร่วมเขียนหนังสือสองเล่มคือ "ศิลปะแห่งการลงทุนที่คุ้มค่า: วิธีการที่นักลงทุนที่ดีที่สุดในโลกเอาชนะตลาด" เขียนในปี 2556 และ "การล่มสลายของสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม: 6 วิธีในการทำกำไรในช่วงเวลาที่ไม่ดี" และเขียนให้กับสิ่งตีพิมพ์มากมายรวมทั้งนิตยสาร Forbes, Motley Fool และ Financial Times เขาได้ให้สัมภาษณ์อย่างสม่ำเสมอกับร้านต่างๆและเป็นผู้บรรยายพิเศษเกี่ยวกับซีเอ็นบีซีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 อยากรู้ไหมว่าเขาชอบอ่านหนังสืออะไร ประเภทไหน ถึงประสบความสำเร็จในสิ่งที่เขารัก
"Influence: The Psychology of Persuasion" เขียนโดย Robert B. Cialdini
คุณจะไม่มีวันพูดว่า "ตกลง" หากคุณหมายความว่า "ไม่" เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้ คุณจะมีอำนาจในการโน้มน้าวมากกว่าที่ผ่านมา ด้วยปริมาณการขายมากกว่าสองล้านเล่มทั่วโลก หนังสือ "กลยุทธ์โน้มน้าวและจูงใจคน" ได้กลายเป็น หนังสือคู่มือเกี่ยวกับหลักการจูงใจซึ่งโดดเด่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา "ดร.โรเบิร์ต บี. ชาลดินี" นักจิตวิทยาผู้มีชื่อเสียงด้านศาสตร์แห่งการโน้มน้าวและจูงใจ ใช้เวลาหลายสิบปีเพื่อทำการค้นคว้าและวิจัยถึงสาเหตุที่ว่า ทำไมคนบางคนถึงสามารถจูงใจเราได้อย่างน่าทึ่ง? เราจะเอาชนะด้วยการใช้เทคนิคของพวกเขาเองได้อย่างไร? นักจูงใจที่เชี่ยวชาญใช้กลยุทธ์เหล่านี้ได้อย่างไรโดยไม่มีผู้ใดรู้? คุณจะป้องกันตัวเองและจะนำความลับเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับคุณเองได้อย่างไร? คุณจะได้เรียนรู้ความลับทางจิตวิทยาหกประการที่อยู่เบื้องหลังแรงกระตุ้นอันทรงพลัง ซึ่งทำให้คนเราปฏิบัติตามคำขอ หนังสือที่สำคัญเล่มนี้จะให้คำตอบคุณได้อย่างแน่นอน!
"Common Stocks and Uncommon Profits and Other Writings" เขียนโดย Philip A. Fisher
บิดาแห่งหุ้นเติบโต "Father of Growth Investing" คือฉายาที่สังคมการเงินมอบให้กับ ฟิลลิป ฟิชเชอร์ ผู้ซึ่งเขียนหนังสือเล่มนี้ และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งของโลก และยังเป็นหนังสือการลงทุนเล่มแรกที่ติดอันดับหนังสือขายดีของ New York Times อีกด้วย
เป้าหมายของหนังสือเล่มนี้คือแนะนำวิธีในการหาหุ้นเติบโต (Growth Stock) โดยจะเน้นไปที่ "กฎ 15 ข้อ ของฟิชเชอร์ และ คำนินทา (Scuttlebutt)" ซึ่งจะอธิบายให้เราเข้าใจว่าบริษัทที่ควรจะลงทุนนั้นต้องมีคุณสมบัติอย่างไร บริษัทอย่างไรที่เราไม่ควรลงทุน เราควรจะซื้อหุ้นเมื่อไร เราควรจะขายหุ้นเมื่อไร และเมื่อไรที่ไม่ควรขาย
"Poor Charlie's Almanack: The Wit and Wisdom of Charles T. Munger" เขียนโดย Peter D. Kaufman
เป็นหนังสือที่เขียนถึงชีวะประวัติและปรัชญาการดำเนินชีวิตและการลงทุนของชาร์ลี มังเกอร์ผู้เป็นคู่คิดด้านการลงทุนของวอร์เร็น บัฟเฟตต์แห่ง Berkshire Hathaway เป็นแนวทางเพื่อการลงทุนที่ดีขึ้นการตัดสินใจและการคิดเกี่ยวกับโลกและชีวิตโดยทั่วไป มุมมองที่ไม่เหมือนใครของชาร์ลีสิ่งที่เขาเรียกว่า "สหสาขาวิชาชีพ" เป็นรูปแบบการพัฒนาตนเองสำหรับความคิดที่ชัดเจนและเรียบง่าย
Security Analysis เขียนโดย Benjamin Graham
เรียกได้ว่าเป็นหนังสือเล่มที่ปฏิวัติวงการนักลงทุน เพราะเป็นหนังสือเล่มแรกที่กล่าวถึงการลงทุนแนวเน้นคุณค่าซึ่งมองหุ้นเป็นธุรกิจ Security Analysis เริ่มเผยแพร่ครั้งแรกในปี 1934 ผ่านการเขียนของ เบนจามิน เกรแฮม และเดวิด ดอจ์ด ศาสตราจารย์แห่ง Columbia Business School หนังสือเล่มนี้เล่มนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เพราะเบนชี้ให้นักลงทุนสนใจไปถึงข้อมูลในงบการเงิน อย่างกำไรต่อหุ้น และอัตราส่วนราคาต่อกำไร แต่อย่างไรก็ตาม หนังสือเล่มนี้ขึ้นชื่อถึงความยากและความหนาที่เหมาะกับการเรียนมหาวิทยาลัยมากกว่าที่นักลงทุนทั่วไปจะซื้อมาอ่านศึกษาเป็นงานอดิเรก
The Intelligent Investor เขียนโดย Benjamin Graham
หนังสือ The Intelligent Investor เล่มนี้ เขียนโดย Benjamin Graham ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า และยังเป็นหนังสือที่ Warren Buffett นักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก ยกย่องว่าเป็นหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุดอีกด้วย เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึงทัศนคติในการลงทุนที่ถูกต้อง กลยุทธ์การลงทุนสำหรับนักลงทุนแต่ละประเภท การมีมุมมองอันเหมาะสมต่อความผันผวนของตลาดหุ้น รวมถึงเรื่องของนโยบายการลงทุน และกรณีศึกษาที่หลากหลาย อธิบายเนื้อหาโดยละเอียด เป็นลำดับขั้นตอน สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง สำหรับนักลงทุนทุกท่าน ไม่ควรพลาด!
You Can Be a Stock Market Genius เขียนโดย Joel Greenblatt
หลักการลงทุนจากหนังสือ คุณก็เป็นเซียนหุ้นได้
1. ให้ทำการบ้านเอง (Do your own work)
2. อย่าเชื่อคนอายุเกิน 30 (Don’t trust anyone over thirty)
3. อย่าเชื่อคนอายุ 30 หรือต่ำกว่า (Dont’s trust anyone thirty or under)
4. เลือกตำแหน่งของตัวเอง (Pick your spots)
5. อย่าซื้อหุ้นมากตัว ให้เก็บเงินไว้ในธนาคารบ้าง (Don’t buy more stocks; put money in the bank)
6. ให้มองที่ Downside เป็นหลัก (Look down, not up)
7. มีหลายหนทางในการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ (There’s more than one road to investment heaven)