Donald Trump เคยให้สัมภาษณ์กับ FOX NEWS เกี่ยวกับงานอดิเรกที่เขาทำเมื่อว่างจากการทำงานว่า เขารักการอ่านมาก บวกกับ Trump โคยเขาเคยโพสทวิตเตอร์ว่า
“ คุณก็รู้นี่ว่าผมรักการอ่าน ผมมักจะมองหาหนังสือดี ๆ สักเล่มแล้วก็อ่านมัน ผมพยายามทำแบบนั้นอยู่”
“ ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับประเทศจีนเป็นร้อย ๆ เล่ม ที่มีมานานหลายศตวรรษ นั่นทำให้ผมรู้ภาษาจีนและทำเงินมหาศาลด้วยภาษาจีน มันยังช่วยให้ผมเข้าใจจิตใจคนจีนอีกด้วย ”
“ พอผมอ่านได้สักครึ่งหน้า สักครู่ก็จะมี “เหตุฉุกเฉิน” หรืองาน ที่ดึงตังผมออกจากหนังสือเสมอ ถึงผมจะชอบอ่านมากแค่ไหน แต่ก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสอ่านบ่อย ๆ ผมต้องทำงานหนักให้รัฐ(สหรัฐ) มากมาย รวมไปถึงการลดค่าใช้จ่ายลงนี่!”
ลองไปรู้จักมุมมองความคิด ทัศนะคติ ของ Donald Trump ผ่านหนังสือเล่มโปรดของเขากันค่ะ
The Art of War โดย Sun Tzu
"ตำราพิชัยสงครามซุนวู : ศิลปะการขาย : Sun Tzu's The Art of War Plus The Art of Sales เล่มนี้ เป็นผลงานของ "แกรี่ แกเกลียดิ" เหมาะสำหรับเป็นคู่มือในการขายของบรรดาจอมยุทธ์การขาย ที่ต้องการความสำเร็จก้าวหน้า ท่านผู้อ่านคงกำลังสงสัยว่า "ตำราพิชัยสงครามซุนวู" จะสามารถนำมาใช้กับงานขายได้อย่างไร หากจะกล่าวถึงหลักดั้งเดิมของตำราพิชัยสงครามซุนวูนั้น ก็คือความชำนาญในการรบ หรือการทำสงคราม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวางแผน และการวิเคราะห์ ด้วยเหตุนี้ตำราพิชัยสงครามซุนวู จึงสามารถนำเอาเรื่องของการวางแผน การวิเคราะห์ ในสถานการณ์ต่างๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านการบริหาร ด้านการตลาด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการขาย หากท่านผู่อ่านต้องการเป็นนักขายที่ยอดเยี่ยมแล้วล่ะก็ หนังสือเล่มนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่ง
The Power of Positive Thinking โดย Norman Vincent Peale
หนังสือ The Power of Positive Thinking หรือ คิดบวก ของ นอร์แมน วินเซนด์ พีล จะชี้ถึงพละกำลังที่ยิ่งใหญ่ ให้แรงบันดาลใจอย่างไม่มีหมดสิ้น ขจัดความกลัวที่จะล้มเหลว ละทิ้งความพ่ายแพ้ของชีวิต พลิกสู่ชัยชนะอย่างน่าทึ่ง นี่คือการแบ่งปันปรัชญาของการใช้ชีวิตอันเรียบง่ายและนำมาซึ่งวความสงบสุขในจิตใจเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ต้องพบเจอกับความยากลำบาก ให้มีแรงกำลังขับเคลื่อนชีวิตจนบรรลุเป้าหมายที่ปรารถนาต่อไป
หนังสือที่ผู้คนทั่วโลกยกย่องและขายดีตลอดกาล ซึ่งมียอดขายมากกว่า 5 ล้านเล่มนี้ จะช่วยให้ผู้อ่านพานพบชีวิตที่เป็นสุขและเปลี่ยนชีวิตไปในทางที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน หนังสือเล่มนี้หวังอย่างยิ่งว่าเคล็ดลับดี ๆ จาก "พลังของการคิดบวก" ที่ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ได้จริง รวมทั้งแนวคิดและวิธีปฏิบัติ ซึ่งว่าด้วยความศรัทธาและการมองโลกในแง่ดีจะเป็นอีกหนึ่งพลังความคิดที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จดังที่คนนับล้านคนทำตามและเห็นผลมาแล้ว
Essays and Lectures โดย Ralph Waldo Emerson
ผลงานการเขียน การแสดงความคิด ของ Ralph Waldo Emerson นักปรัชญาและกวีชาวอเมริกัน ผู้นำปรัชญา จิตนิยมอุตรวิสัย (Transcendentalism) ในต้นศตวรรษที่ 19 อีเมอร์สันเกิดที่แมสซาชูเส็ตส์ ตอนแปดขวบบิดาเสียชีวิต เขาต้องทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เริ่มต้นทำงานเป็นครู ในปี 2372 ได้บวชเป็นบาทหลวงที่โบสถ์ยูนิทาเรียน (Unitarian) อีสองปีต่อมาภรรยาของเขาเสียชีวิต เขาเริ่มเกิดความคลางแคลงใจในศาสนา จึงลาออกในปี 2375 ปีต่อมาเขาเดินทางไปเที่ยวยุโรปอยู่หนึ่งปี ที่นี่เขาได้พบกับนักคิดนักเขียนคนสำคัญอย่าง เวิร์ดสเวิร์ธ (William Wordsworth) จอห์น มิลล์ (John Stuart Mill) และ โธมัส คาร์ลีลย์ (Thomas Carlyle) ก่อนจะกลับอเมริกามาเขียนหนังสืออย่างจริงจัง ในปี 2378 อีเมอร์สันกับพรรคพวกก่อตั้ง Transcendental Club ปีต่อมาเขาตีพิมพ์ Nature หนังสือรวมบทความเล่มแรก ซึ่งได้สะท้อนแนวคิดทางปรัชญาจิตนิยมอุตรวิสัย ซึ่งมีความเชื่อว่า สิ่งที่มนุษย์รับรู้จะต้องผ่านการทำงานของจิตเสียก่อน มนุษย์จะรับรู้ความจริงโดยไม่ผ่านการทำงานของจิตไม่ได้ และระบบการทำงานของจิตอยู่เหนือประสบการณ์ จากนั้นเขาได้ออกไปบรรยายตามสถาบันการศึกษาต่าง ๆ และเริ่มมีชื่อเสียงในอเมริกา เขาเขียนบทความ และบทกวีไว้จำนวนมาก อีเมอร์สันเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2425 นับเป็นนักปราชญ์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของอเมริกา
The Prince โดย Niccolò Machiavelli
"The Prince : เจ้าผู้ครองนคร" หนังสือที่ได้รับการวิเคราะห์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ด้วยมรดกทางความคิดซึ่ง "นิกโกโล มาเคียเวลลี" ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังชิ้นนี้ คือบันทึกประวัติศาสตร์ที่ตีแผ่การต่อสู้แย่งชิงทางการเมืองของแผ่นดินหนึ่งในยุคหนึ่งให้เราได้เห็นเป็นอุทาหรณ์ ดังนั้นหากเรายกเอาอคติทุกประการทิ้งไปเสีย แล้วหยิบเฉพาะข้อคิดจากข้อเท็จจริงขึ้นมาพิเคราะห์ ก็จะได้ประโยชน์มากมายจากคำชี้แนะของบุรุษผู้ต่ำต้อย ผู้ซึ่งในยามมีชีวิตมิมีผู้ใดให้บทบาทความสำคัญ ทว่า เขาได้ทิ้งข้อเท็จจริงอันยิ่งใหญ่ทางการเมืองไว้ให้พวกเราได้ขบคิด เป็นมรดกทางการเมืองชิ้นสำคัญ แบบที่ไม่มีบุรุษผู้ใดกล้ากระทำอันส่งผลให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งรัฐศาสตร์สมัยใหม่เมื่อหามีชีวิตไม่แล้ว หนังสือเล่มนี้จึงได้กลายเป็นแนวคิดทางการปกครองอันลือลั่น ได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากมาย เป็นที่กล่าวขานนับแต่ทศวรรษของมาเกียเวลลีเองมาจนตราบถึงทุกวันนี้
The Party โดย Richard McGregor
วิธีการปกครองของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ปกครองอย่างไร พรรคเจาะลึกเข้าไปในความลับทางกการเมืองของจีน ความสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์อยู่ที่อำนาจการแต่งตั้งตำแหน่ง สำคัญๆ ต่างๆ ในจีน ในหนังสือชื่อ The Party คนเขียนที่เป็นผู้สื่อข่าว Financial Times คือ Richard McGregor เขียนไว้ว่า ถ้าจะเปรียบเทียบก็คือ มีองค์กรแบบเดียวกันนี้ในสหรัฐฯ ที่มีอำนาจแต่งตั้งรัฐมนตรี ผู้พิพากษาของศาลสูง ผู้ว่าการรัฐ ผู้บริหาร Walmart, ExxonMobil, United Airlines, บรรณาธิการ New York Times และอธิการบดี มหาวิทยาลัยเยล
On China โดย Henry Kissinger
ดร. เฮนรี คิสซิงเจอร์ (Henry Alfred Kissinger) เป็นผู้เชี่ยวชาญการเมืองระดับโลก ผู้มีบทบาทสำคัญในการเมืองระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริการะหว่างช่วงปี ค.ศ.1969 และ ปี ค.ศ.1977 เขาเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาระหว่างประเทศ ภายใต้ชื่อ ldquo;Kissinger Associatesrdquo; รวมถึงผู้ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพในปี ค.ศ.1973 ในหนังสือเล่มนี้เขาพูดถึงการติดต่องานด้านต่างประเทศ การเจริญสัมพันธ์ทางการทูตของจีน จากประสบการณ์ส่วนตัวของเขาที่เคยได้สัมผัสการทำงานของผู้นำชาวจีนในหลายรุ่ๆน ผ่านทั้งความบาดหมางและการพึ่งพาอาศัยกัน
Mao the Unknown Story โดย Jung Chang และ Jon Halliday
Jung Chang สตรีชาวจีนผู้เกิดในมณฑลเสฉวน ช่วงชีวิตในวัยเด็กเคยผ่าน 10 ปีแห่งความวินาศของการปฏิวัติวัฒนธรรมด้วยการเป็นเรดการ์ด และผู้เขียนหนังสืออันอื้อฉาว Wild Swans (หงส์ป่า) ได้จับมือกับ Jon Halliday สามีชาวอังกฤษใช้เวลาค้นคว้าหาข้อมูล-สัมภาษณ์นับ 10 ปีเพื่อกลั่นออกมาเป็น หนังสือ Mao The Unknown Story ประวัติชีวิตอีกด้านของประธานเหมา
หากพลิกอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างละเอียดจะพบได้ว่า ในสายตาของ Jung Chang หนึ่งในผู้ชอกช้ำและชีวิตได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจากการปฏิวัติวัฒนธรรม เหมาเจ๋อตง นั้นมีภาพลักษณ์เช่นเดียวกับทรราชผู้ที่ทั้งสองมือชะโลมไปด้วยโลหิต โดยในหนังสือเล่มนี้เธอกล่าวย้ำอยู่หลายครั้งหลายคราว่าระหว่างช่วงเวลาที่เหมาครองอำนาจอยู่ และเป็นช่วงเวลาที่โลกไม่มีสงครามใหญ่ๆ นั้น เขาคือบุคคลผู้ที่จะต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของชาวจีนผู้บริสุทธิ์มากกว่า 70 ล้านคน และด้วยตัวเลขจำนวนประชาชนผู้เสียชีวิตดังกล่าวนี้ ได้ส่งให้เหมากลายเป็นผู้นำที่ฆ่าประชาชนของตัวเองไปมากที่สุดในบรรดาผู้นำของโลกในช่วงศตวรรษที่ 20!
หากมองในภาพรวมแล้วหนังสือเล่มนี้ก็ถือว่า ได้จุดประกายและได้ให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งของอดีตฮ่องเต้เสมือนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนไว้อย่างน่าสนใจ อย่างเช่น
- เหมาเจ๋อตงนั้นไม่ได้มีความฝักใฝ่ต่อลัทธิมาร์กซ์และลัทธิคอมมิวนิสต์มาตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เพิ่งจะมาเริ่มเอาเมื่อตอนเขาอายุ 27 ปี เมื่อได้รับงานและค่าตอบแทนจากพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซีย
- จริงๆ แล้วตามหลักฐานจากทางฝั่งรัสเซีย (โซเวียต) 'สมัชชาสมัยที่หนึ่ง' ในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2464 (ค.ศ.1921) ที่จัดขึ้น ณ บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตสัมปทานฝรั่งเศส เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเหมาเข้าร่วมด้วยนั้น มิได้เป็นการประชุมก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนดังเช่นที่ชาวจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนเชื่อและป่าวประกาศอยู่ในปัจจุบัน แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนนั้นก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2463 (ค.ศ.1920) แล้ว
- ด้วยนโยบายที่ริเริ่มขึ้นจากเหมา ส่งให้ระหว่างช่วง พ.ศ.2501-2504 (ค.ศ.1958-1961) ในประเทศจีนเกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก โดยความผิดพลาดสำคัญก็คือ การที่เหมามีนโยบายส่งออกผลผลิตทางเกษตรของจีนให้กับโซเวียตเพื่อแลกกับอาวุธและเทคโนโลยีนิวเคลียร์ จนกระทั่งชาวจีนทั่วประเทศต้องขาดอาหารจนเสียชีวิตมากถึง 38 ล้านคน
- ความขัดแย้งของเหมากับบุคคลรอบๆ ตัวไม่ว่าจะเป็น หลิวเส้าฉี เผิงเต๋อหวย จูเต๋อ เติ้งเสี่ยวผิง รวมไปถึง สุภาพบุรุษตลอดกาล นายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล ผู้ปกป้องประธานเหมา จนกระทั่งตนเองเสียชีวิต
- ชีวิตรักของเหมาเจ๋อตง และ ความสัมพันธ์ระหว่างภรรยาทั้งสี่คน ฯลฯ
กล่าวโดยรวมแล้ว Jung Chang และ Jon Halliday กำลังจะชี้ให้เห็นผู้คนเห็นว่า จริงๆ แล้ว เหมาเจ๋อตง ก็เป็นเพียงบุคคลธรรมดาที่เต็มเปี่ยมไปด้วย รัก โลภ โกรธ หลง มีทั้ง 'ด้านสว่าง' และ 'ด้านมืด' โดยทั้งชีวิตของอดีตผู้นำสูงสุดของจีนผู้นี้ เขามิได้เพียงสร้าง 'คุณูปการ' อันใหญ่หลวงให้กับจีน แต่ยังก่อ 'หายนะ' อันน่าสะพรึงกลัวให้กับจีนด้วยเช่นกัน .....
One Billion Customers: Lessons from the Front Lines of Doing Business in China, โดย James McGregor
หนังสือที่บอกเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในจีน พวกเขาทำได้อย่างไร?
เรียบเรียงโดย : ศิริรัตน์ สุ่นสกุล
.