พุทธศักราชใหม่ 2018 คงไม่ต้องมานั่งอ้ำๆ อึ้งๆ เกรงใจชนิดพูดความจริงกันไม่ได้อีกแล้ว สำหรับอุตสาหกรรมหนังสือไทย นับแต่นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจชนะเลือกตั้งเป็นนายกฯ ซ้ำอีกในวาระ 2558-2560 จวบจนกระทั่งปัจจุบัน ธุรกิจหนังสือทั้งอุตสาหกรรมดิ่งลงเหวสู่หายนะ อย่างมิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบในฐานะผู้นำสมาคมวิชาชีพฯ ดังกล่าวได้
ที่สำคัญการค้าขายขาดทุนกำไรนั้น เป็นเรื่องรอง แต่การที่นายกสมาคมฯ ได้ปล่อยให้อุตสาหกรรมทั้งต้นน้ำปลายน้า เสียเครดิตต่อนักลงทุน จากอุตสาหกรรมอื่น รวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อจากสถาบันการเงินทั้งหลาย โดยนิยามอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวกับหนังสือทั้งหมดว่าเป็น ’ธุรกิจเสี่ยงตายหมู่” นั่นสะท้อนถึง ‘นาย’ หมดสิทธิหมดเสียง ที่จะตีสำนวนโวหารว่าธุรกิจหนังสือนั้นอัปลักษณ์ เพราะรัฐบาลไม่เหลียวแล อีกต่อไป เพราะเมื่อนายอาสามาแล้ว ทำไม่ได้ ไปโทษคนนั้นคนนี้ โทษปัจจัยภายนอกที่นอกเหนืออำนาจการควบคุม แต่ไม่โทษตนเองว่าไร้สติปัญญา และเลือกที่ปรึกษาตลอดจนทีมงานบริหารร่วมไม่เป็นไม่เก่ง
แม้นายจะคลานรอดระหว่างขามวลสมาชิกสมาคมฯ และหนอนหนังสือตัวจริงทั้งปวง เพื่อขอขมา ณ เวลานี้ ก็ยังไม่สายเกินไปนะ คงไม่ต้องให้บัญชร บ.ก.ปริทัศน์หน้าต่างนี้ ประกาศเตือนอีก.