มีคนมากมายในโลกนี้ที่ใช้ “ทวิตเตอร์” กันอย่างแคล่วคล่องว่องไว และสารภาพกันอย่างตรงไปตรงมาว่า ถ้าวันไหนไม่ได้ทวิตกับใครๆในโลกโซเชียลแล้วชีวิตเหมือนจะขาดรสชาติประมาณนั้น แจ็ค ดอว์ซีย์ผู้นี้ยังสร้างผลิตภัณฑ์ทางด้านซอฟแวร์ขึ้นมาอีกหลายชิ้นที่โด่งดังไม่แพ้ทวิตเตอร์รวมทั้งยังเป็นที่นิยมใช้ของผู้คนที่สหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ความฝันของแจ็ค ดอว์ซีย์ ไม่ได้หยุดอยู่แค่สร้างเว็บบล็อกทวิตเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เป็นที่นิยมอย่างสูงในโลกโซเชียลเนตเวิร์คเท่านั้น แต่เขายังต้องการไต่ไปถึงตำแหน่งสูงทางด้านการเมืองอีกด้วย
เป้าหมายการไปให้ถึงตำแหน่ง “ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก” ของแจ็ค ดอว์ซีย์ นั้นอาจอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะตอนนี้คนหลายร้อยล้านคนในโลกต่างก็เทใจให้เขากันแทบไม่เว้นแต่ละวัน ต่างคนต่างก็รอเวลาที่ฝันของเจ้าพ่อทวิตเตอร์จะเป็นจริงขึ้นมาให้ได้ในเร็ววันนี้ เรื่องราวต่างๆของแจ็ค ดอว์ซีย์ หรือ ทวิตเตอร์คิงนั้นไม่ได้เป็นแค่เรื่องตื่นเต้นในโซเชียลเนตเวิร์คเท่านั้น แต่ยังฉีกแนวไปสู่เส้นทางด้านการเมืองซึ่งถือว่าแตกต่างจากมหาเศรษฐีไอทีอื่นๆจนไม่อาจนำมาเปรียบกันได้ วันนี้แจ็คอาจเป็นแค่ ทวิตเตอร์คิง แต่ไม่กี่ปีข้างหน้าเขาอาจเป็นผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กที่อาจจะกำลังลุ้นตำแหน่งที่สูงกว่านั้นอีกก็เป็นได้ เขาเป็นทวิตเตอร์คิงที่ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง
วันนี้จะพาไปดูหนังสือ 6 หนังสือที่มีอิทธพลต่อ Jack Dorsey กันค่ะ
The Art Spirit "จิตวิญญาณศิลปะ" โดย โรเบิร์ต เฮ็นรี
"นักศึกษาทุกคนควรบันทึกสิ่งที่ตนพบในบางรูปแบบ สิ่งที่ทุกคนสามารถหวังที่จะทำได้คือ เพิ่มส่วนของตนลงในส่วนทั้งหมด
ไม่มีใครสามารถเป็นคนสุดท้าย แต่เขาสามารถบันทึกความก้าวหน้าของเขา และไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขาบันทึก คือการเค้นเอาออกมาจากสิ่งทั้งหมด
สิ่งที่เขาทิ้งไว้นั้นมากพอสำหรับคนอื่นๆ ที่จะใช้เป็นหินเพื่อเหยียบขึ้นไป ..."
"งานสร้างสรรค์ทั้งปวงสร้างขึ้นบนสิ่งที่มีมาก่อน และศิลปะถูกถักทอด้วยวงกลมแห่งอิทธิพลซึ่งเฉกเช่นชีวิตเอง เรียกร้องการซึมซับอันละเอียดอ่อนของการให้และการรับ"
โรเบิร์ต เฮ็นรี [Robert Henri, 1865 - 1929] จิตรกรและนักการศึกษาแนวสัจนิยมชาวอเมริกัน ผู้เป็นที่รักในแวดวงศิลปะด้วยการครุ่นคิดทางปรัชญาเกี่ยวกับธรรมชาติและจุดหมายของศิลปะ จากหนังสือ "จิตวิญญาณศิลปะ" The Art Spirit ซึ่งรวบรวมทฤษฎีต่างๆ ของเฮ็นรีโดยลูกศิษย์มาร์เจอรี ไรเยอร์สัน [Margery Ryerson] ในปี 1923 ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจ และทรงอิทธิพลต่อศิลปินตลอดมา
--------------------------------------------------
The Score Takes Care of Itself โดย Bill Walsh
เมื่อครั้งที่ Steve Forbes จ้างผมในปี 1992 เพื่อปั้นนิตยสารหัวใหม่ชื่อ Forbes ASAP ผมได้ดึงตัว Bill Walsh อดีตโค้ชทีมอเมริกันฟุตบอล 49ers ซึ่งได้วางมือเกษียณไปแล้วมาร่วมทีมเขียนบทความ ผมจะแวะเวียนไปหา Walsh และเขาจะเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ผมฟัง องค์กรที่ประสบความสำเร็จต่างมีสิ่งที่ Walsh เรียกว่า “มาตรฐานแห่งความเป็นเลิศ” และมีวิธีในการสร้างสิ่งนี้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น เวลาไหนที่ควรต้องใช้มาตรการเด็ดขาดและเวลาไหนที่อาจจะต้องผ่อนปรน หนังสือของ Walsh รวบรวมบทเรียนทั้งหมดเหล่านี้ไว้ภายในเล่ม
--------------------------------------------------
The Checklist Manifesto: How To Get Things Right โดย Atul Gawande
Jack Dorsey แนะนำหนังสือเล่มนี้เพราะเขารู้ว่าอุปสรรคทางการดำเนินการคือสิ่งจำเป็นในการทำธุรกิจ การมีไอเดียที่ดีเป็นแค่ส่วนหนึ่งการเท่าเทียม การพัฒนาศักยภาพคือจุดสำคัญของผู้นำและเหล่าซีอีโอ ถ้าคุณกลัวกับความผิดพลาดหรือความล้มเหลว ลองลิสต์วิธีแก้ไว้ก่อนเลย อย่างที่ Atul Gawande อธิบาย ศัลยแพทย์ หมอ และนักบินพาณิชย์ ใช้ลิสต์ลำดับในการช่วยชีวิตหลายๆคน เพื่อให้เช็คลิสต์มีประโยชน์ จะต้องมีขั้นตอนแค่เล็กน้อยที่พูดถึงปํญหาใหญ่
--------------------------------------------------
The Yoga Sutras of Patanjali - โยคะพระสูตรของ Patanjali
หนังสือเกี่ยวกับการเรียนรู้ การฝึกปฏิบัติ Raja Yoga
--------------------------------------------------
The Four Agreements: A Practical Guide to Personal Freedom โดย Don Miguel
หนังสือขายดีจาก New York Times มานานกว่า 8 ปี มียอดตีพิมพ์มากกว่า 6 ล้านเล่มที่จำหน่ายในสหรัฐฯ และแปลเป็น 40 ภาษาทั่วโลก นำเสนอหลักจริยธรรมอันทรงพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราไปสู่ประสบการณ์ใหม่แห่งอิสรภาพ ความสุขและความรักที่แท้จริง
--------------------------------------------------
The Master and Margarita โดย Mikhail Bulgakovn
...บ่ายวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ ซาตานปรากฏกายขึ้นในกรุงมอสโก พร้อมกับพวกพ้อง สร้างความโกลาหล แตกตื่น และเปลี่ยนวันธรรมดาสามัญ ให้กลายเป็นวันมืดมิดที่สุดของรัสเซีย อีวาน เบซดอมนี ถูกจับส่งตัวเข้าโรงพยาบาลบ้าหลังจากนั้น ที่นั่น อีวานได้พบกับ มาสเตอร์ ชายผู้อุทิศตนให้กับความจริง และได้รับฟังเรื่องราวของ มาร์การิตา หญิงผู้อุทิศตนให้กับความรัก นี่คือนิยายที่ มิคาอิล บูลกาคอฟ กลั่นทุกอณูชีวิตเขียนขึ้น ก่อนจะกลายมาเป็นหนึ่งในวรรณกรรมรัสเซียยิ่งใหญ่ที่สุดในศตรวรรษที่ยี่สิบ "หนึ่งในนิยายรัสเซียยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างแท้จริงแห่งศตวรรษนี้"