ทางเดินน้ำค้าง กับแม่ของผม : วิธีรับมือ เมื่อลูกอยากไปโรงเรียน

ทางเดินน้ำค้าง กับแม่ของผม

 

             ลูกไม่ยอมไปโรงเรียน …เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นเมื่อเริ่มภาคการศึกษาใหม่ เนื่องจากเด็กๆ ต้องเปลี่ยนการดำเนินชีวิต จากที่เคยนอนดึก ตื่นสาย ไปเที่ยว ทำกิจกรรมกับครอบครัว และเพื่อนๆ กลายเป็นต้องไปโรงเรียนแต่เช้า เพื่อไปเรียนหนังสือ และมีการบ้านมากมายกลับมาทำที่บ้าน

 

 

             หนังสือนิทานเรื่อง "ทางเดินน้ำค้าง กับแม่ของผม"  เป็นเรื่องราวของเด็กชายที่ไม่ชอบไปโรงเรียน โดยอ้างเหตุผลต่าง ๆ นานาที่จะไม่ต้องไป อยู่มาวันหนึ่งแม่ของเขาถามว่า เพราะอะไรถึงไม่ชอบไปโรงเรียน แล้วโตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กชายตอบไปว่าเขาจะเป็นชาวนา เพราะไม่ใช่ว่าใครๆ ก็เป็นกันได้ หลังจากที่ทั้งคู่โต้เถียงกัน แม่ก็สั่งให้เขาแต่งตัวไปโรงเรียนกับเธอ เธอเดินนำหน้าลูกชายไปตามเส้นทางใหม่ที่เขาไม่เคยไป พร้อมกับถือไม้ยาว ๆ หนึ่งอันไปด้วย ไปส่งลูกด้วยวิธีหนึ่ง ที่ทำให้เด็กชายเปลี่ยนความคิด เขาไม่โดดเรียนอีกต่อไป

            เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ ชี้ให้เห็นถึง พ่อแม่ต้องมีวิธีการรับมือกับลูกๆ เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้น ซึ่งอาจแตกต่างกันออกไปสำหรับแต่ละบ้าน 

            ประพันธ์สาส์นเลยขอแนะนำวิธีรับมือที่คุณแม่ควรรู้ โดย นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข กับ เทคนิคให้ลูกอยากและยอมไปโรงเรียนแต่โดยดี ดังนี้

 

1. ไม่หนีลูก เพราะไม่เช่นนั้นเขาจะรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง

 

2. เมื่อพ่อแม่ต้องไปจริงๆ ก็ขอให้กอดและหอมแก้มพร้อมบอกกับลูกว่าจะกลับมารับให้ตรงเวลา

 

3. พูดให้ลูกสบายใจ เช่น “รักลูกนะ สัญญาจะมารับตอนบ่าย”

 

4. การโต้ตอบรุนแรงมักไม่ได้ประโยชน์ เพราะอาการแบบนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กในวัยเปลี่ยนผ่าน จากชั้นอนุบาล เข้าสู่ชั้น ป.1 ลูกของคุณไม่รู้ว่าควรจะวางตัวอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้เวลาค่อนข้างมากอยู่ในโรงเรียน ยังไม่รวมการต้องอยู่ห่างจากแม่  และต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อีกมากมาย โลกของวัยประถม ยากกว่าที่คุณคิด

 

5. สร้างความสนุกของการไปโรงเรียนลองบันทึกภาพถ่ายของลูกที่โรงเรียน ทั้งตอนเล่นเครื่องเล่นที่สนาม อยู่กับคุณครูที่รัก การใช้ภาพเข้าช่วย จะทำให้ลูกรู้สึกสนุก และมองเห็นภาพรวมได้มากกว่าแค่คำพูดอธิบาย

 

6. “กอด” สร้างความมั่นใจทุกเช้าก่อนเดินทางไปโรงเรียนหรือก่อนแยกกันเมื่อส่งลูกถึงโรงเรียนแล้ว แนะนำให้คุณกอดลูกแน่นๆ แบบกระชับ (ไม่ใช่กอดแน่นจนเจ็บ) การกอดช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกได้ไม่น้อย

 

7. ลดความเครียดการต้องรีบเร่งตอนเช้าๆ จัดกระเป๋าหรือหาเสื้อผ้า อุปกรณ์ต่างๆ ก่อนออกจากบ้านไปโรงเรียน (ให้ทัน) อาจจะทำให้ลูกเครียด ไม่สบายใจ ดังนั้นการ เตรียมตัวก่อนนอน จะช่วยได้ไม่น้อย เช่น เตรียมเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า ตลอดจนกิ๊บที่จะติด หรือโบว์ผูกผมไว้ก่อน รุ่งขึ้น เด็กๆ ก็ไม่ต้องร้อนรนจนเกินไป

 

8. หากพบว่าบางครั้งลูกร้องไห้กอดแขนขาเราแบบไม่อยากให้เราไปไหน ต้องกลับมาดูว่า เป็นเพราะปัญหาที่บ้าน หรือเพราะปัญหาที่โรงเรียน ซึ่งต้องปรึกษาหารือกับครู

 

9. หาของดูต่างหน้าเลือกของที่ลูกเห็นแล้วรู้สึกสบายใจขึ้น การต้องอยู่โรงเรียนคนเดียว ลูกอาจจะมีช่วงเวลาเหงาบ้าง อาจจะเป็นภาพครอบครัว ใส่ไว้ในล็อกเก็ตสวยๆ ให้ลูกห้อยคอไว้ดูแก้เหงา

 

10. ถ้าลูกร้องติดต่อยาวนานกว่า 2 อาทิตย์ ต้องหาสาเหตุโดยด่วน ทั้งครู และที่บ้าน ถ้าพยายามแล้วแต่ไม่ได้ผล ให้พาไปพบแพทย์

 

คุณหมอ กล่าวต่อว่า แต่ละช่วงวัยปัญหาการไม่อยากไปโรงเรียนจะมีความแตกต่างกัน เด็กเล็กจะเป็นเรื่องของการพลัดพราก ส่วนกลุ่มเด็กโตที่กำลังศึกษาในชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา ไม่ได้เกิดจากการต้องห่างไกลจากพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่อาจเกิดจากความบกพร่องทางการเรียนรู้ เรียนไม่รู้เรื่อง มีปัญหาการอ่าน การเขียน การคำนวณ สมาธิสั้น ฯลฯ ซึ่งทำให้ท้อแท้หมดกำลังใจจะเรียนหนังสือต่อ

 

สั่งซื้อหนังสือได้ที่ http://bookonline.praphansarn.com/home/detail/453

 

 

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ