นิทานอารมณ์ดี Mister Men & Little Miss : ภาคภาษาไทย

นิทานอารมณ์ดี Mister Men & Little Miss

การสอนให้เด็กๆ รู้จักรักการอ่าน ถือเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะช่วยเสริมสร้างให้เด็กมีพัฒนาการเหมาะสมตามช่วงวัย และต้องเริ่มตั้งแต่ยังเล็กๆ แม้ว่าเด็กจะยังอ่านหนังสือไม่ออกก็ตาม หนังสือนิทานจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เด็ก รู้สึกสนใจ และสนุกกับการอ่านหนังสือมากขึ้น โดยเริ่มจากการที่พ่อแม่ เล่านิทานให้ลูกฟัง พี่อ่านนิทานให้น้องฟัง และเมื่ออ่านหนังสือเองได้ เด็ก ๆ ก็จะอยากอ่านนิทานเอง

นิทานอารมณ์ดีชุด Mister Men & Little Miss เป็นการ์ตูนตัวกลม ๆ สีสันสดใส หลากหลายคาแรคเตอร์ ที่ครองใจน้องๆ หนูๆ มาแล้วในหลายประเทศ วันนี้สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น ได้นำMister Men & Little Miss มาแปลเป็นภาษาไทยแล้ว เพื่อให้เด็กไทยได้สามารถสัมผัสกับการ์ตูนอารมณ์ดีชุดนี้ได้มากยิ่งขึ้น และได้จัดงานเปิดตัวกันไปแล้วที่โรงเรียนนานาชาติชูร์สเบอรี่(Shrewsbury International School) พร้อมทั้งมอบหนังสือนิทานชุดนี้ให้กับโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้งหมด 436 โรงเรียนด้วยกัน อีกทั้งยังได้รับเกียรติจากคุณทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาร่วมกิจกรรมสาธิตการเล่านิทานให้ลูกฟังอีกด้วย

 

นิทานอารมณ์ดี Mister Men & Little Miss

 

นายอาทร เตชะธาดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น กล่าวถึงที่มาของ นิทานอารมณ์ดี Mister Men & Little Miss ภาคภาษาไทยว่า พอได้นิทานชุดนี้มา ก็ทำให้กลับไปอ่านหนังสือเด็กด้วยความสนุกอีกครั้ง มิสเตอร์ชาร์ล โร -เจอร์ ฮาร์กรีฟส์ ผู้แต่งหนังสือชุดนิทานอารมณ์ดีMister Men & Little Miss ได้แนวความคิดในการแต่งหนังสือเรื่องนี้จากลูกชาย “น้องอดัม” ที่ ถามกับเขาว่า “tickle” หรือแปลเป็นไทยว่า “ล้อเล่น” นั้น เป็นอย่างไร เขาจึงนำชื่อนี้มาสร้างเป็นคาแรกเตอร์ของตัวละครในหนังสือชุดนิทานอารมณ์ดี หนังสือเล่มแรกของนิทานชุดนี้จึงเป็นเรื่องราวของ “คุณล้อเล่น”

จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ได้สร้างตัวละครอื่นๆ ตามมาอีก นั่นก็คือ คุณตะกละ คุณแสนสุข คุณซอกแซก คุณฮัดเช้ย และคุณชอบซน ซึ่งนิทานชุดนี้ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนมีผู้ขอซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนในปีพ.ศ. 2524 และมีการแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลกถึง 11 ภาษา ยอดขายรวม 10 ล้านเล่มในแต่ละปี ตอนเขาเสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2531 เขาได้แต่งเพิ่มเติมมาอีก 79 เรื่อง นั่นก็หมายถึงคาแรกเตอร์ของตัวละครอีก 79 ตัวนั่นเอง

ภายหลังลูกชายของเขา มิสเตอร์อดัม ในวัย 20 กว่า ก็ได้พิมพ์หนังสือใหม่ และมีการเพิ่มตัวละครเข้าไปอีก 10 ตัว ซึ่งนั่นรวมถึงตัวละคร 4 ตัว ที่มิสเตอร์ฮาร์กรีฟส์ได้คิดเอาไว้ก่อนเสียชีวิตด้วย “หนังสือชุด Mister Men & Little Miss มี 2 รูปแบบด้วยกัน ทั้งที่เป็นหนังสือสำหรับวัยรุ่น และสำหรับเด็ก ถือได้ว่าเป็นการ์ตูนที่ใช้ภาพร่างสำหรับเด็ก อันเป็นการพลิกโฉมหน้าการ์ตูนสำหรับเด็กเลยทีเดียว” นายอาทรกล่าว

 

นิทานอารมณ์ดี Mister Men & Little Miss

 

ในช่วงของกิจกรรม เริ่มจากกิจกรรมการสาธิต การเล่านิทานในห้องเรียน โดยให้น้องๆ ที่มาร่วมกิจกรรมทุกคนจินตนาการว่า กำลังอยู่ในห้องเรียนและครูกำลังเล่านิทานให้ฟัง ซึ่งเด็ก ๆ ก็ได้ตื่นตาตื่นใจ กับตัวละครจากชุดนิทานอารมณ์ดีตัวแรกที่นำมาเปิดตัว คือ “คุณแสนสุข”MR.HAPPYซึ่งเป็นตัวแทนของ Mr. Men ผู้มีอารมณ์ดีและมีความสุขตลอดเวลา ต่อจากนั้นเด็ก ๆ ก็ได้รับฟังการสาธิต การเล่านิทานให้ลูกฟัง โดยคุณทยา ทีปสุวรรณ และลูก ๆ (น้องเฟรม น้องเฟรน และน้องยูฟ่า) ซึ่งคุณทยาเลือกเล่านิทานเรื่อง “คุณล้อเล่น” MR. TICKLE ให้ลูกๆ ฟัง และกิจกรรมในช่วงท้ายเป็นกิจกรรม การอ่านนิทานให้น้องฟัง โดยน้องเฟรน เป็นผู้อ่านนิทานเรื่อง “คุณตะกละ”MR. GREEDY ให้น้องยูฟ่าฟัง

หลังจากจบกิจกรรมการเล่านิทานต่าง ๆ คุณพรทิพย์ บุญมงคล ผู้แปลหนังสือชุดนิทานอารมณ์ดี Mister Men & Little Miss ก็ได้เป็นผู้มอบของที่ระลึกให้แก่ น้องเฟรม น้องเฟรน และน้องยูฟ่า กิจกรรมทั้งหมดจบลงด้วยรอยยิ้มของเด็กๆ ที่โรงเรียนนานาชาติชูร์สเบอรี่ และทุกคนที่ไปร่วมงาน นอกจากความสนุกสนานแล้ว หนังสือนิทานนั้นมีประโยชน์กับเด็ก ๆ อย่างที่เราคาดไม่ถึง นิทานช่วยลดอารมณ์ทางลบ เสริมสร้างอารมณ์ทางบวก ช่วยในการพัฒนาทั้งด้านไอคิวและอีคิว โดยเฉพาะนิทานอารมณ์ดีชุด Mister Men & Little Miss นั้น เป็นตัวอย่างได้ชัดเจนในเรื่องการพัฒนาทางด้านอารมณ์ของเด็ก ๆ จะทำให้เด็กๆ ทราบว่าสิ่งที่ตนเองเป็นหรือรู้สึกอยู่นั้นคืออะไร เพราะตัวละครแต่ละตัวจะมีลักษณะที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร ซึ่งลักษณะเหล่านั้นก็คือพฤติกรรม อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของตัวละครที่ถ่ายทอดออกมาในเรื่องราวที่แสนสนุกสนาน และแฝงไว้ด้วยข้อคิด ทำให้เด็กมีความเข้าใจในตนเอง และผู้อื่นมากขึ้น ในที่สุดก็จะทำให้เด็กมีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของตนเองได้เหมาะสมในทุกสถานการณ์

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ