นามปากกา :

รางวัลที่ได้รับ :

  • ได้รับพระราชทานโล่และเข็มประกาศเกียรติคุณ ในฐานะผู้มีผลงานดีเด่นด้านอนุรักษ์ภาษาและวัฒนธรรมไทยจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
  • ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2548

ประวัติส่วนตัว :

ประยอม ซองทอง เกิดที่ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ครอบครัวมีอาชีพทำนา หลังเรียนจบไปเป็นครูสอนหนังสือที่โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย จังหวัดนครพนม เริ่มงานเขียนเรื่องสั้น และกลอนตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เมื่อเรียนที่จุฬาก็ได้รับการยอมรับในฐานะนักกลอนเอกของมหาวิทยาลัย เป็นสาราณียกรให้กับวารสารของคณะอักษรศาสตร์ และของสโมสรนิสิตจุฬา(ส.จ.ม.)

พ.ศ. 2511 เข้าทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย ต่อเนื่องกันหลายปีจนเกษียณอายุที่บริษัทนี้ ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา ซึ่งเคยเป็นอาจารย์สอนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังเกษียณอายุเมื่อ พ.ศ. 2533 เป็นนักเขียนอิสระ และอาจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โรงเรียนสตรีประเทืองวิทย์ และทำงานเป็นผู้บริหารอาวุโส ด้านการประชาสัมพันธ์ ที่บริษัท เทเลคอมเอเซีย ต่อมา ได้รับการแต่งตั้ง เป็นสมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2539

ประยอม ซองทอง สมรสกับ หม่อมราชวงศ์อรฉัตร สุขสวัสดิ์ ธิดาหม่อมเจ้าประสมสวัสดิ์ ศุขสวัสดิ

ประยอม ซองทอง เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดตั้ง "สโมสรสยามวรรณศิลป์" เพื่อส่งเสริมงานด้านภาษา และวัฒนธรรมไทย เป็นนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยคนที่ 12 ระหว่างปี พ.ศ. 2539 - 2520 ได้รับพระราชทานโล่และเข็มประกาศเกียรติคุณ ในฐานะผู้มีผลงานดีเด่นด้านอนุรักษ์ภาษาและวัฒนธรรมไทย จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2548