วินทร์ เลี้ยววาริณ : ศิลปินแห่งชาติ 2556

วินทร์ เลี้ยววาริณ
  • การศึกษาสูงสุด ปริญญาโท ด้านการตลาด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • ประเภทงานเขียน เรื่องสั้น, นวนิยาย, ความเรียง, บทกวีไฮกุ
  • ผลงานเด่น พ.ศ. 2542 สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน (รวมเรื่องสั้น) (รางวัลซีไรต์ปี 2542 และหนึ่งในหนังสือดี 100 เล่มที่เด็กและเยาวชนควรอ่านจาก สกว.), พ.ศ.2537 ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน (นวนิยาย) (รางวัลดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ปี 2538, รางวัลซีไรต์ ปี 2540, หนังสือดีสำหรับเด็กเยาวชนพ.ศ. 2541-2542), พ.ศ. 2537 อาเพศกำสรวล (รวมเรื่องสั้นแนวทดลอง) (รางวัลดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ปี 2538)
  • ผลงานรวมเล่ม ประมาณ 60 เล่ม

รางวัลที่ได้รับ           

                ศิลปินแห่งชาติ 2556, รางวัลซีไรต์ 2 สมัย ในปี 2540 และ 2542, รางวัลศิลปาธร, รางวัล สพฐ. กระทรวงศึกษา

ประวัติ

                เข้าเรียนชั้นประถมปีที่ 1 เมื่ออายุเจ็ดขวบ ที่โรงเรียนวิริยเธียรวิทยา หาดใหญ่ ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมเล็ก ๆ ครั้นแปดขวบก็ยังเรียนซ้ำชั้น ป.1 ด้วยครูประจำชั้นเห็นว่าจะทำให้ภูมิแน่นขึ้น เรียนต่อประถมปีที่ 4 ที่โรงเรียนแสงทองวิทยา หาดใหญ่ ซึ่งเป็นโรงเรียนคาทอลิก จึงมีโอกาสเรียนทั้งศาสนาพุทธและคริสต์ เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้ไปต่อม.ศ. 4 ที่กรุงเทพฯ ณ โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) รุ่นที่ 3 วินทร์ สนใจงานศิลปะตั้งแต่เล็ก จึงเลือกเรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์ จบปริญญาตรี สถ.บ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วเดินทางไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ทันที ทำงานเป็นสถาปนิกที่สิงคโปร์ร่วมสี่ปีก็เดินทางไปทำงานและเรียนต่อที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขาเข้าเรียนในหลายมหาวิทยาลัยโดยไม่เอาปริญญา จบแล้วกลับเมืองไทยมาทำงานในวงการโฆษณา และต่อมาเรียนต่อจนจบปริญญาโท ด้านการตลาด จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบแล้วเริ่มทำงานในวงการโฆษณาด้วยตำแหน่งผู้กำกับศิลป์ และเปิดฉากการเขียนหนังสือควบคู่ไปด้วย เรื่องสั้นเรื่องแรกที่ได้รับการตีพิมพ์คือ “ไฟ” นอกจากนี้ ยังเขียนเรื่องสั้น และบทความ ลงนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ และยังมีผลงานเขียน ร่วมกับนักเขียนรุ่นใหม่อย่าง ปราบดา หยุ่น ในชื่อชุด ความน่าจะเป็นบนเส้นขนาน (ดัดแปลงจากชื่อหนังสือที่ได้รับความนิยมของทั้งคู่ คือ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน ของวินทร์ และ ความน่าจะเป็น ของปราบดา) โดยเขียนลงเป็นตอนๆ ลงในนิตยสาร open ในลักษณะการโต้ตอบอีเมลกัน และได้รวมเล่มเป็นหนังสือแล้วเจ็ดเล่ม