นามปากกา :

รางวัลที่ได้รับ :

๑. นวนิยาย “หุบเขาแสงตะวัน” “ขอความรักบ้างได้ไหม” “ทุ่งหญ้าสีน้ำเงิน” (รางวัลชมเชยคณะกรรมการหนังสือแห่งชาติ)
 ๒. “นกสีฟ้า” “ทุ่งโล่งดงลึก” “วัยฝันวันเยาว์” (รางวัลดีเด่นคณะกรรมการหนังสือแห่งชาติ) “หน้าต่างสายลม” “บ้านดวงใจ” “กระโจมดาว” “ห้องสีขาวใต้หลังคา” ฯลฯ
๓. บทกวี “บทกวีจากภูเขา” “ดอกไม้ถึงคนหนุ่มสาว” “บทกวีแห่งความรัก” “หน้าต่างดอกไม้” (รางวัลชมเชยคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ และคัดเลือกเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย)
 ๔. “ขลุ่ยหญ้า” “บันทึกผู้ผ่านทาง” (รางวัลรวี โดมพระจันทร์) ฯลฯ

ประวัติส่วนตัว :

พิบูลศักดิ์ ละครพล (มาชา มาชารี) ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2560
 

ประวัติโดยย่อ

      เมื่อเรียนจบอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๑๓ พิบูลศักดิ์ ละครพล เริ่มทำงานศิลปะโดยเป็นลูกมือช่างเขียนรูปโปสเตอร์หนังที่เชียงใหม่ เพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือต่อและทำงานอื่น เริ่มงานประพันธ์จริงจังประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๖ ด้วยการเขียนเรื่องสั้นและบทกวีลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น “คนเมือง” และเรื่องสั้นเรื่องแรกชื่อ “น้ำใจ” ได้ลงพิมพ์ในหนังสือ “ชัยพฤกษ์” ทำให้มีกำลังใจในการเขียน โดยเริ่มเป็นที่รู้จักของนักอ่านในฐานะนักเขียนเรื่องสั้นลงในนิตยสารลลนา ยุคที่ สุวรรณี สุคนธา เป็นบรรณาธิการ และได้เริ่มเขียนนวนิยายเรื่องแรก “หุบเขาแสงตะวัน” ในนิตยสารสตรีสาร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ เขาเคยเป็นผู้สื่อข่าวต่างจังหวัดในหนังสือพิมพ์เดลิไทม์ และเป็นคอลัมนิสต์อิสระให้นิตยสารสกุลไทย ได้รอนแรมไปทั่วภาคเหนือเพื่อเขียนสารคดีชุด “สู่อ้อมแขนแผ่นดินลานนา” เคยเป็นผู้เขียนคำโฆษณาให้บริษัทโฆษณาเท็ดเบสท์และบริษัทฟาร์อีสต์ แอดเวอร์ไทซิ่ง เขาตั้งสำนักพิมพ์ “สู่ฝัน” ในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ และออกเทปบทกวีในเสียงเพลง “ขอความรักบ้างได้ไหม” และในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ ก่อตั้งวงดนตรี “มาชารี” ทำโครงการดนตรีกวีสัญจรสู่ชนบท ในปีถัดมาได้รับยกย่องเป็นกวีดีเด่นจากสภากวีโลก บทกวีหลายบทได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น ปัจจุบันอยู่มี่บ้านเกิดจังหวัดพะเยา โดยยึดการประพันธ์เป็นอาชีพ เป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์สู่ฝัน และเดินทางเพื่อสืบสานโครงการดนตรีกวีสัญจรสู่ชนบทอย่างสม่ำเสมอ