ช่วงที่เป็นเด็กหลงในลอนดอน ได้พบประสบการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อชายผิวสีรูปร่างมอมแมมคนหนึ่งเดินมาประชิดตัวแล้วควักอะไรบางอย่างออกมาจากเสื้อโค้ท…โล่งอกที่เป็นหนังสือ เขายื่นให้ เรารับมา พร้อมเสียงบอกราคาแว่วเข้าหู – - อ้าว ต้องจ่ายเงินด้วยเหรอ?
หนังสือที่ว่าคือวารสาร The Big Issue ก่อกำเนิดขึ้นในเดือนกันยายน พ.ศ. 2534 โดยจอห์น เบิร์ด และกอร์ดอน ริดดิก ภายในมีทั้งเรื่องบันเทิง การเมือง งานสร้างสรรค์ ฯลฯ และจะมีระบุไว้สั้นๆ ว่า นี่คือวารสารที่ทำให้คนเร่ร่อนหรือผู้ด้อยโอกาสมารับไปขายเพื่อหารายได้ โดยปัจจุบันพวกเขาจะรับซื้อมาเล่มละ 1.50 ปอนด์เพื่อขายในราคา 2.50 ปอนด์ ผู้ซื้อรายใหม่อาจจะตกใจบ้างเมื่อถูกมีคนแปลกหน้าเดินมาหาและยื่นหนังสือให้ แต่หากไม่ตกใจจนเกินไป เราจะได้เห็นลีลาการขายที่แตกต่างกัน และจะได้เห็นบัตรประจำตัวผู้ขาย เพื่อพิสูจน์ว่าผู้ขายเหล่านี้เป็นตัวจริงและได้รับการฝึกขายก่อนลงสนามจริงมาแล้ว (ปัจจุบันมีการผลิตขายในสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ เกาหลีใต้ แอฟริกาใต้ ญี่ปุ่น นามิเบีย เคนย่า มาลาวี และไต้หวัน)
ที่เมืองไทยก็มีแบบนี้ให้ชื่นใจในนาม BE Magazine ก่อตั้งโดยคุณอารันด์ อาชาพิลาส นักเรียนเก่าอังกฤษที่นำแนวความคิดจาก The Big Issue มาเป็นแรงบันดาลใจ 60% ของนิตยสารที่พิมพ์มาแต่ละเดือนจะแบ่งให้ผู้ที่ต้องการหารายได้หรือผู้ที่ไม่มีอาชีพมารับนิตยสารไปขาย โดย 30 เล่มแรกจะให้ฟรี หลังจากนั้นก็นำเงินมาต่อทุนซื้อเล่มละ 25 บาทไปขายในราคา 45 บาท วันนี้ BE Magazine อยู่มาถึง 3 ปีแล้ว ผู้ซื้อยังมีความสุขกับการซื้อจากมือผู้ขายมากกว่าไปร้านหนังสือ เพราะสิ่งที่ได้รับกลับมามีมากกว่า เราเห็นความตั้งใจของผู้ขาย เห็นน้ำใจของผู้ซื้อ เห็นรอยยิ้มจากทั้งสองฝ่ายที่เหมือนจะบอกเป็นนัยว่า “โลกนี้ยังให้กันได้อีกมาก เพียงเริ่มจากจุดเล็กๆ อย่างตัวเรา”
The Big Issue ในสหราชอาณาจักรครบ 20 ปีเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา มีการทำวิดีโอสั้นๆ แสดงตัวตนของวารสารเล่มนี้อีกครั้ง
The Big Issue Street Football Festival จัดขึ้นทั้งหมด 11 วันเมื่อเดือนเมษายน 2555 ที่ผ่านมาในออสเตรเลีย สองวันสุดท้าย เป็นวันของผู้ด้อยโอกาสและคนไร้บ้านผู้หลงใหลฟุตบอลจำนวน 60 คน ที่ร่วมลงแข่งขันอย่างสนุกสนาน
BE Magazine ในรายการ SME ตีแตกเมื่อปีพ.ศ. 2553
ขอบคุณที่มา : http://www.creativemove.com/creative