ทำเอาช่วงบ่ายแก่ คล้อยไปเย็นย่ำ ณ ลานกิจกรรมของ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์ กรุงเทพฯ) เมื่อวันพุธที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา ดื่มด่ำไปด้วยความสุขของกลุ่มเพื่อนผอง มิตรสหาย เสียจริงๆ กับงานแถลงข่าวเปิดตัว BoxSet วรรณกรรมซีไรต์ปกแข็ง และบทเพลงอันเป็นแรงบันดาลใจจากวรรณกรรมซีไรต์ มิติใหม่ของวงการเพลง ผ่านปลายปากกาของ "พยัต ภูวิชัย" นักแต่งเพลงชื่อดังผู้คร่ำหวอดกับการถอดตัวโน้ตเป็นภาษาแล้วร้อยเป็นบทเพลงมากว่า 25 ปี
ปรากฏการณ์ดังกล่าว เปิดตัวด้วย บทกวีของ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์และศิลปินแห่งชาติ และต่อด้วยเสวนา "ศิลปะส่องทาง" ที่มี สุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณกรรม และทิวา สาราจูฑะ บรรณาธิการดีเด่น รางวัลคุณนิลวรรณ ปิ่นทอง มาร่วมนั่งพูดคุย ดำเนินรายการโดย จรูญพร ปรปักษ์ประลัย
ต่อจากนั้น บนเวทีก็หนาแน่นขึ้นไปถนัดตา เมื่อกวี-นักเขียนซีไรต์ ไม่ว่าจะเป็น ศิลา โคมฉาย, เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์, โชคชัย บัณฑิต , จเด็จ กำจรเดช และอังคาร จันทาทิพย์ เจ้าของผลงานวรรรณกรรม จากทั้งหมด 7 เล่ม และศิลปินที่ร่วมขับร้องได้แก่ พยัต ภูวิชัย ,สุรชัย จันทิมาธร ,มงคล อุทก ,บิลลี่ โอแกน ,ฟอร์ด สบชัย,บี๋ คณาคำ ,เป้ สีน้ำ,กันตรึม-พิฆเนศร์ จันทิมาธร เข้าร่วม สนทนา "ศิลป์ทั้งผองพี่น้องกัน" ถ่ายทอดเรื่องราวของบทเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจ ผ่านงานวรรณกรรมซีไรต์
พยัต ในฐานะ โปรดิวเซอร์ผลงานชุดนี้ เผยถึงแนวคิดและไอเดียของ 8 เพลง จาก บทกวีและงานเขียนระดับซีไรต์ว่า มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่เขา ได้รับเชิญไปเล่นดนตรีในงานเปิดตัวหนังสือ "โรคประหลาดในประวัติความเศร้า" ของศิริวร แก้วกาญจน์ โดยนำบทเพลงไปมอบให้แทนช่อดอกดไม้ แต่นั่น เป็นของขวัญที่ทำให้เพื่อนๆ ในวงการกวี นักเขียน ศิลปิน ต่างๆ ชื่นชอบมากๆ และต่างมาให้เขียนเพลงให้กับหนังสือของแต่ละคนบ้าง นี่จึงเกิดแรงบันดาลใจให้หยิบเอาผลงานการเขียน ประพันธ์ หรือภาพวาดทางจิตรกรรมมาแต่งให้เจ้าของต่างๆ ครั้นเมื่อเกิดสโมศิลป์ ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มคนที่ทำงานศิลปะสารพัดศาสตร์ขึ้นมา จึงได้เกิดการนำงานเขียน มาสื่อสารเป็นเพลง จากการนำ วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ที่จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ผจญภัย ทั้งหมด 7 เล่ม มาเล่าเรื่องราวใหม่ในท่วงทำนองของบทเพลง ภายใต้ชื่ออัลบั้ม "จนกว่าจะถึงบรรทัดสุดท้าย"
สำหรับบทเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้นั้น ก็ได้ศิลปินสร้างสรรค์คุณภาพที่คุ้นเคยกันดีมาร่วมถ่ายทอด อาทิ เพลง แดดเช้า จากรวมเรื่องสั้น แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะจิบกาแฟ โดย จเด็จ กำจรเดช ที่ขับร้องโดย ฟอร์ด -สบชัย ไกรยูรเสน 2. เพลงหัวใจห้องที่ห้า จากรวมบทกวี หนังสือ หัวใจห้องที่ห้า โดย อังคาร จันทาทิพย์ ที่ร้องโดย บี๋ คณาคำ อภิรดี มาขับกล่อม 3. เพลง "กลับไปเยี่ยมวัยเยาว์" จากรวมบทกวี "แม่น้ำรำลึก" ผลงานปลายปากกาของ เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ ที่ขับร้องโดย น้าหงา สุรชัย จันทิมาธร, น้าหว่อง มงคล อุทก ,กันตรึม พิฆเนศร์ จันทิมาธร และคฑาวุธ ทองไทย 4.เพลง ฟ้าบ้านเราสวยกว่าฟ้าในเมือง จากรวมบทกวี บ้านเก่า ของโชคชัย บัณฑิต ซึ่งเพลงนี้ พยัต ภูวิชัย ร้องเอง 5. เพลงในเวลาของผีเสื้อ จากรวมบทกวี ในเวลา ของแรคำ ประโดยคำ ซึ่งได้ เป้ สีน้ำม าร้องให้ 6. เพลง ครอบครัวกลางถนน จากรวมเรื่องสั้น ครอบครัวกลางถนน ขับร้องโดย สุเมธ องอาจ และ7. เพลงนาฏกรรมบนลานกว้าง จากรวมบทกวี นาฏกรรมบนลานกว้าง ที่ได้ บิลลี่ โอแกน มาทั้งร้องทั้งเป่าออแกนให้
จเด็จ กำจรเดช เจ้าของผลงาน "แดดเช้าร้อนจนเกินกว่าจะจิบกาแฟ" กล่าวว่า เพลงที่แต่งขึ้นทั้งหมดนี้ เสมือนเป็นการต่อยอด งานศิลปะเป็นงานที่ส่องทางให้กันและกันได้ โดยส่วนตัว เวลาเขียนงานก็มีฟังเพลงเป็นแรงบันดาลใจอยู่บ้าง ในครั้งนี้ ตัวหนังสือ ได้ส่งทอดกลับไปเป็นเพลง นี่เป็นการผลักดันให้นักแต่งเพลงคนอื่นๆ หันมาหาวรรณกรรม
"เนื้อเพลงมันเท่ห์พอจะพาหนังสือ หรือวรรณกรรมที่หลายคนคิดว่า อ่านยาก กลับกลายมาน่าสนใจ ให้อยากอ่านเนื้อหาเต็มๆได้แน่นอน สุดท้ายแล้ว อ่านจบแล้ว ฟังจบแล้ว จะได้อะไรกลับไปก็ขึ้นอยุ่กับการตีความของแต่ละคน " จเด็จว่า
ด้านเป้ สีน้ำ กล่าวว่า การทำงานเพลงจากบทกวีนี้ รู้สึกได้ถึงแรงบันดาลใจอย่างล้นหลามของพยัติ เนื้อหามีความหมายดี อย่างเพลงในเวลาของผีเสื้อ ที่ตัวเองร้อง เป็นการถ่ายทอดเนื้อหาออกมาในเชิงสัจธรรม มองชีวิตเชิงลึกตามความเป็นจริง บวกกับกิเลสของมนุาย์ สร้างความถูกต้องแต่ก็ยังต้องยอมรับความรู้สึกของความเป็นมนุษย์ "เราจะเป็นแค่ผีเสื้อ หรือ "สิทธารถะ" เป้ สีน้ำ ทิ้งคำถามเอาไว้
มาที่ ดอกไม้ดอกเดียวในลานกวี ผู้ถ่ายทอดเพลง "หัวใจห้องที่ห้า" อย่าง "บี๋ คณาคำ" ที่บอกพร้อมรอยยิ้มว่า รู้สึกดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งของเพลงในกวีชุดนี้ การดึงเอาใจความสำคัญจากหนังสือซีไรต์แต่ละเล่มมาเขียนเป็นเพลงก็คล้ายกับ การทำเพลงประกอบภาพยนตร์ คืออ่านทั้งหมดแล้วตีความ ดึงหัวใจสำคัยออกมาแต่ละเรื่อง แล้วย่อให้อยุ่ในหนึ่งเพลง ศึ่ง พยัติ ทำออมาได้อย่างสวยงาม...
การพูดคุย ระหว่าง กวี และศิลปิน ดำเนินจนเพลิน เข้าสู่ช่วงแดดร่ม ลมตก ก่อนจะอำลากันด้วยเพลง "กว่าจะถึงบรรทัดสุดท้าย" ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับอัลบั้ม และอีกหลายๆ บทเพลงที่ขับกล่อม โดยโปรดิวเซอร์เพลงอย่าง พยัต ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า
" ผมทำงานกับความสมบูรณ์แบบมาทั้งชีวิต แต่เรารู้ว่า ศิลปะไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ งานชุดนี้มีกีตาร์อะคูสติก เป็นตัวยึดโยง แต่แนวจะหลากดหลายตามนักร้องแต่ละคนที่ถ่ายทอดออกมาตามแต่สไตล์ของตัว เองอยากให้ลองฟังดูเพราะทุกคนตั้งใจถ่ายทอดอารมณ์เพลงกันอย่างเต็มที่"
ขอบคุณที่มา : http://www.matichon.co.th