เรื่องราวดีๆ ที่จะนำมาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความทรงจำครับผม แน่นอนว่าคงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับหลายๆ คน รวมถึงน้องๆ นักเรียนที่ต้องอาศัยความจำบทเรียนต่างๆ เพื่อนำไปสอบนั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นคนจากสาขาอาชีพอะไร หรือแม้กระทั่งนักเรียนนักศึกษาก็ต้องใช้ความจำในการทำงานกันทั้งนั้น เช่นการพรีเซนต์งานต่างๆ การจดจำเนื้อหาการเรียนเพื่อไปสอบ แต่ในหลายๆ ครั้งเราก็ไม่ค่อยจะมีเวลาไปจดจำสิ่งเหล่านี้เท่าที่ควร ผลที่ออกมาเลยไม่สู้ดีเท่าไรนักนั่นเอง
วันนี้เราเลยขอนำเสนอเทคนิคสำหรับการท่องจำข้อมูลยาวๆ ให้ได้ภายในเวลาที่สั้นมาฝากกันครับผม จะมีวิธีไหนบ้างเรามาชมกันเลย…
ข้อ 1 อ่านข้อมูลที่ต้องการจดจำซัก 2-3 รอบ
อ่านข้อมูลทั้งหมดก่อนครับโดยคร่าวๆ และใช้เวลาไม่มาก แต่การอ่านแบบนี้แหละจะทำให้เราคุ้นเคย และสร้างความเข้าใจในเนื้อหาและลำดับของข้อมูลทั้งหมด ก่อนที่จะไปเริ่มจดจำข้อมูลสำคัญๆต่อไปนั่นเอง
ข้อ 2 แบ่งข้อมูลออกเป็นช่วงสั้นๆ
เป็นไปไม่ได้หรือเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่เราจะจดจำข้อมูลทั้งหมดในครั้งเดียวใช่มั้ยครับ ดังนั้นเราจะต้องแบ่งมันออกเป็นช่วงๆ และค่อยๆ จำทีละส่วนๆ แบบนี้จะทำให้เราจดจำข้อมูลได้เร็วขึ้นครับ รับประกันได้เลย
ข้อ 3 กำหนดเลขลำดับ
การกำหนดหมายเลขหรือลำดับให้กับข้อมูลแต่ละส่วน จะทำให้การจดจำง่ายขึ้น เร็วขึ้น เนื่องจากสมองของเราจะมีวิธีจดจำ ตัวเลข กับข้อมูลเข้าต่างๆ ไว้ด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้เรานึกได้ถึงข้อมูลได้ตามลำดับที่เราได้ตั้งไว้นั่นเอง
ข้อ 4 อ่านออกเสียง
ตอนเป็นเด็กที่อาจารย์มักจะให้เด็กๆ ท่องนั่นท่องนี่ออกเสียง เป็นเรื่องจริงครับ!! ทีนี้เรามาเริ่มอ่านข้อมูลด้วยเสียงให้ตัวเองฟัง ซักรอบ 2 รอบ เพื่อเป็นการเพิ่มการเปิดช่องทางรับข้อมูลจากทางหู และ ทางสายตาด้วย
ข้อ 5 เริ่มจดจำข้อมูล
เริ่มจดจำข้อมูลทีละส่วน ตามลำดับที่เราได้จัดไว้ในข้อก่อนหน้า เมื่อเริ่มจำได้ ก็ค่อยเลื่อนไปจำลำดับต่อไป เราจะค่อยๆจำได้ เพราะจะนึกถึงความต่อเนื่องของข้อมูล ทีละส่วนๆ ตามกันมาเลยล่ะ
ข้อ 6 คิด จำ ทบทวน
จากนั้นให้พูดซ้ำๆ ทีละส่วน ตามลำดับ โดยพยายามไม่ดูข้อมูลหรือโน้ต แต่ให้คิดถึงความหมายของสิ่งที่พูด นึกถึงที่มา สาเหตุ และ ผลหรือสิ่งที่ตามมา ของแต่ละส่วนไปเรื่อยๆ เพื่อที่เราจะสามารถนึกถึงข้อมูลที่จะติดตามกันมาเป็นลำดับ ทำแบบนี้หลายๆ รอบเราจะเริ่มจำได้เลยล่ะครับ ยิ่งถ้าสร้างความเชื่อมโยงระหว่างคำก็จะทำให้เราจำง่ายขึ้นอีกด้วยแหล่ะ
ขอบคุณที่มา : http://www.scholarship.in.th/