David Foster Wallace นักเขียนนวนิยาย เรื่องสั้น และบทความ ที่น่าสนใจคือ เขาคือนักเขียน ! ที่กล่าวสุนทรพจน์ได้ยอดเยี่ยมไม่เป็นรองใคร และสุนทรพจน์ที่เขากล่าวแก่นักศึกษา คือเรื่องของการเจริญสติ !! ในหนังสือ วิชาสุดท้าย (ที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอน) เล่ม 1

     แต่ถ้าพูดถึงหนังสือที่เขาโปรดปรานส่วนใหญ่ กลับไม่ใช่หนังสือแนวคิด ปรัชญา แต่เป็นหนังสือนิยายแนวลึกลับ สยองขวัญ และแฟนตาซี

“Black Sunday” เขียนโดย Thomas Harris

     ไมเคิล แลนเดอร์ เป็นบุคคลอันตรายที่สุดในอเมริกา เขาควบคุมเรือเหาะที่ใช้ถ่ายทอดโทรทัศน์เหนือสนามกีฬาทุกวันสุดสัปดาห์ เขาหลงใหลวัตถุระเบิด และเขาบ้ามากขึ้นทุกวัน นั่นคือสาเหตุที่สายลับ PLO คนสวยใช้เสน่ห์ล่อเขา และนั่นคือสาเหตุที่ชาวโลกจะได้เห็นการลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐและการตายหมู่อย่างโหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ในการแข่งซูเปอร์โบวล์วันอาทิตย์นี้ นอกเสียจากใครสักคนพบว่าแผนของไมเคิล แลนเดอร์คืออะไร ..และลงมือฆ่าเขาเสียก่อน

“The Silence of the Lambs” เขียนโดย Thomas Harris

     "แคลลิช สตาร์ลิ่ง เจ้าหน้าที่เอฟบีไอฝึกงานที่ได้รับมอบหมายให้สืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ที่มีฆาตกรใช้ชื่อแฝงว่า ""บัฟฟาโร่ บิล"" จนกระทั่งเธอได้พบกับ ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ อดีตฆาตกรซึ่งถูกบำบัดจิตอยู่ เธอพบว่าเลคเตอร์มีบางอย่างเกี่ยวข้องกับบัฟฟาโร่ บิล เธอจึงพยายามสืบและรู้ตัวจริงของบัฟฟาโร่ บิลให้ได้ แต่ในที่สุดก็เกิดเรื่องเมื่อลูกสาวของวุฒิสมาชิกถูกบัฟฟาโล่ บิลจับตัวไป เธอจึงต้องจับตัวบัฟฟาโร่บิลให้จงได้ เพื่อที่จะช่วยลูกสาวของวุฒิสมาชิกและเธอรู้ว่าเลคเตอร์คือกุญแจที่จะไขให้เธอพบตัวจริงของบัฟฟาโร่บิล

     นิยายคลาสสิคที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นปรมาจารย์แห่งนิยายแนวลึกลับ-สยองขวัญ – ตัวเอกมีเสน่ห์มาก เนื่องจากความฉลาดและโรคจิต – เคยทำเป็นภาพยนตร์และซีรี่ส์หลายเวอร์ชั่น

“Carrie” เขียนโดย Stephen King

     นวนิยายสยองเล่มแรกของ King ที่ถูกตีพิมพ์ครั้งแรก 30,000 เล่มเท่านั้น ก่อนโด่งดังและถูกทำเป็นภาพยนตร์อีกหลายต่อหลายครั้ง เริ่มครั้งแรกในปี 1976   Carrie เป็นเรื่องราวของเด็กสาววัย 16 หน้าตาบ้าน ๆ ที่มีแม่เป็นโรคจิต ทำให้เพื่อนในโรงเรียนมักจะกลั่นแกล้งเธอเสมอ จนกระทั่งมีหนุ่มป็อบสุดหล่อของโรงเรียนมาจีบและชวนเธอไปงานพร็อม และได้รับรางวัลราชินีในงาน เหมือนฝันได้ไม่กี่อึดใจ เลือดหมูที่จัดวางเอาไว้ก็ถูกสาดใส่ตัวเธอ วินาทีนั้นเธอพึ่งเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นแผนการกลั่นแกล้งที่ทุกคนรวมหัวกัน เธอจึงออกมาแก้แค้น!

“The Lion, the Witch, and the Wardrobe” เขียนโดย C.S. Lewis

     หนังสือเล่มนี้จะพาผู้อ่านไปพบกับวรรณกรรมแฟนตาซีจินตนาการเหนือจริง หนึ่งในวรรณกรรมเยาชนชุด "นาเนียร์" เมื่อ…ปีเต้อร์ ซูซาน เอ๊ดมันด์ และลูซี่ ถูกส่งไปอยู่ที่บ้านศาสตราจารย์ชราคนหนึ่งเพื่อหนีภัยสงคราม บ้านหลังนี้มีทางเดินทอดยาว ห้องเรียงเป็นแถวเหมือนไม่สิ้นสุด ห้องคล้ายๆกันเต็มไปด้วยชั้นหนังสือรายเรียง และห้องใหญ่มโหฬารที่ไม่มีอะไรเลย นอกจากตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่หลังหนึ่งซึ่งดึงดูดให้ลูซี่ก้าวลึกเข้าไป ทันใดเธอก็สัมผัสถึงความนุ่มนวลคล้ายละอองบางอย่างและความเย็นเยือก เธอมาปรากฏตัวอยู่กลางป่ายามค่ำคืน มีหิมะอยู่ทุกหนทุกแห่ง หิมะใต้เท้าและเกล็ดหิมะโปรยปรายอยู่รอบตัว

“Lonesome Dove”  เขียนโดย Larry McMurtry

     เนื้อเรื่องกล่าวถึง 2 คู่หูอดีตนายตำรวจของหน่วย เท็กซัส เรนเจอร์  ซึ่งเมื่อปลดประจำการมาลงทุนประกอบอาชีพซื้อขายปศุสัตว์ร่วมกัน อยู่ในเมืองชายแดนเล็กๆเงียบๆ ชื่อว่า โลนซัม เดิฟ ได้สักพัก ก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย อยากจะหาอะไรที่สนุกตื่นเต้นท้าทายมาทำอีกสักครั้งก่อนแก่

     พอดีมีเพื่อนอีกคนหนึ่ง มาเล่าให้ฟังว่า ที่เขตมอนทาน่าซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 4,000 กิโลเมตร เป็นดินแดนแห่งขุนเขาและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม น้ำท่าอุดมสมบูรณ์  เปรียบเหมือนสวรรค์บนดิน ข้อสำคัญยังไม่มีใครเคยเข้าไปทำไร่ปศุสัตว์เลยสักรายเดียว

     สองคู่หูจึงเห็นว่า โอกาสที่จะได้ทำอะไรสนุกๆและท้าทายอีกครั้งหนึ่งมาถึงแล้ว รีบชวนสมัครพรรคพวกที่รู้ใจกัน จัดเตรียมเสบียงกรังให้พร้อม ต้อนฝูงม้าและวัวเดินทางไปตั้งหลักใหม่กันที่มอนทาน่า