Higashino Keigo : นักเขียนนิยายสืบสวน อาชญากรรมชาวญี่ปุ่น

Higashino Keigo


     Higashino Keigo  นักเขียนชาวญี่ปุ่น เป็นวิศวกรที่ผันตัวมาเป็นนักเขียนนิยายสืบสวน  นิยายแนวอาชญากรรมเป็นหลัก

     ส่วนใหญ่ตัวละครจะเป็นคนเดินดินธรรมดา แต่ชีวิตเกิดผลิกผันเพราะเจอผลกระทบจากคดีฆาตกรรม ส่วนใหญ่เป็นแนวเน้นพล็อต แทบทั้งหมดเล่าเรื่องผ่านมุมมองบุคคลที่ 3 แต่ถึงไม่ได้มุ่งเน้นว่าใครฆ่าหรือฆ่าอย่างไร กลวิธีการฆ่าในแต่ละเล่มก็ไม่เคยมีความธรรมดา มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และแสดงความเป็นมนุษย์ออกมามากกว่าเน้นทริคสังหารคลุ้งกลิ่นคาวเลือดอย่างนิยายสืบสวนทั่วไป

     ผลงานช่วงแรกของ Keigo เป็นงานเขียนแนวลึกลับสืบสวนจริงจัง ใช้ตรรกะเป็นหลัก งานหลายชิ้นพูดเรื่องวิทยาศาสตร์โดยตรง เช่น การสร้างพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ หรือการปลูกถ่ายสมอง แต่ผลงานระยะหลังมีความหลากหลายจนระบุประเภทงานเขียนลำบาก ต้องดูกันไปเป็นเรื่องๆ ว่าเล่มไหนเป็นแนวไหน ผลงานของ  Keigo  ช่วงหลังๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการหยิบยกประเด็นสังคมและประเด็นหนักๆ มาใช้ในเรื่อง เขาเป็นพวกเขียนงานสต็อคเก็บไว้ 2-3 เรื่องเสมอ เป็นคนที่คิดเรื่องวัตถุดิบที่จะเอามาใช้ในการเขียนตลอดเวลา มีผลงานตีพิมพ์ปีละ 2-4 เรื่องมา

     เริ่มต้นงานเขียน เมื่อปี 1981 หลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี Keigo เข้าทำงานเป็นวิศวกรดูแลชิ้นส่วนยานยนต์ในบริษัทนิปปอนเดนโซ และใช้เวลานอกเหนือเวลางานแต่งนิยายนักสืบ ปี 1983 ส่งเรื่อง The House of Dolls เข้าประกวดรางวัลเอโดงาวะ รัมโป ได้ที่ 2 Keigo  เล่าว่า ตอนนั้นถ้างานเขียนผ่านเข้ารอบสองได้ จะแต่งงานกับแฟน แฟนของอาจารย์เป็นครูพิเศษโรงเรียนมัธยมปลายสตรี อาจารย์ก็เลยเขียนเรื่องให้ตัวละครหลักอยู่ในโรงเรียนมัธยมปลาย

     ปี 1984 Keigo  ส่งผลงาน The Magic Ball เข้าประกวดรางวัล Random Walk แต่ตกรอบสุดท้าย วันถัดมาก็ได้ทราบข่าวว่าผลงานเรื่อง After School ที่ส่งประกวดรางวัลเอโดงะวะ รัมโปได้รับรางวัลชนะเลิศ ทำให้ Keigo ได้เปิดตัวในฐานะนักเขียนอย่างเป็นทางการ (อายุ 27 ปี) Keigo  ลาออกจากงานประจำ และย้ายจากบ้านเกิดในโอซาก้าเข้ามาอยู่ในโตเกียว เดือนมีนาคม ปี 1986 เพื่อเป็นนักเขียนเต็มเวลา


     หลังโด่งดังจากเรื่อง “ความลับ” (ปี1998) ชื่อเสียงของ Higashino Keigo เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปบ้าง ต่อมาในปี 2007 เรื่องสั้นและนิยายในซีรีย์กาลิเลโอถูกหยิบไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ก่อนจะตามด้วย “กลลวงซ่อนตาย” ฉบับภาพยนตร์ในปีถัดมาที่ส่งให้ยอดขายนิยายถล่มทลาย



      นับถึงปลายปี 2018 Keigo  มีผลงานนิยายและรวมเรื่องสั้นตีพิมพ์ทั้งสิ้น 89 เรื่อง รวมบทความ 5 เล่ม หนังสือภาพ 1 เรื่อง และผลงานอื่นๆ

      งานเขียนของ Keigo โดยมากเป็นแบบเล่มเดียวจบ เช่น พระอาทิตย์เที่ยงคืน , ร้านขายของชำของคุณนามิยะ(น้ำพุ สนพ.) จดหมายจากฆาตกร กับ ความลับ , When the curtain of prayer comes down
 

งานเขียนที่เป็นซีรีย์มีอยู่ 7 ชุด คือ

1.ซีรีย์กาลิเลโอ (สนพ.ไดฟุกุลิทซื้อลิขสิทธิ์แล้ว 9 เล่ม ทยอยตีพิมพ์ออกมาแล้ว 5 เรื่อง)
2.ซีรีย์คางะ(สนพ.เนชั่นแปลออกมาแล้วหลายเล่ม)
3.ซีรีย์นานิวะ(ยังไม่มีแปลไทย)
4.ซีรีย์ไดโกโร่(ยังไม่มีแปลไทย)
5.ซีรีย์สกี(ยังไม่มีแปลไทย)
6.ซีรีย์ลาปลาซ(ยังไม่มีแปลไทย)
7.ซีรีย์ Masquerade Hotel (น้ำพุ สนพ. แปลออกมาแล้ว 2 เล่มในชื่อพิกัดต่อไปใครเป็นศพ)
 

     Keigo บอกว่า เวลาเขียน อย่าเริ่มเขียนเร็วไป ต้องมีทริคในเรื่องก่อน แต่ทริคก็ค่อยเติมเพิ่มเข้าไปทีหลังได้ ส่วนเรื่องมุมมองของตัวละคร เช่น ตัวละครเฉพาะทางแบบนักคณิตศาสตร์ การมีมุมมองของตัวละครแบบนี้ไม่ง่าย ตัวอาจารย์เองก็ยังพยายามอยู่ ยากดีแต่ก็สนุก ความสัมพันธ์ระหว่างทริคที่ใช้กับเป้าหมายที่ตัวละครต้องการจะไม่ใช่ว่า “อืม... คนนี้ต้องทำแบบนี้แน่นอน” แต่เป็น “ถ้าเป็นคนๆ นี้น่าจะใช้วิธีอย่างนี้นะ” ทริคในเรื่อง “พิษรักสั่งตาย” เอง มันเป็นทริคชนิดที่ไม่มีทางทำให้เกิดขึ้นจริงได้เลย ถ้าเป็นคนทั่วๆ ไป ดังนั้น ถ้าจะวาดภาพใครสักคนที่ทำอะไรแบบนี้ได้ ก่อนอื่นก็ต้องถามตัวเองก่อนเลยว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนแบบไหน คือ จับทริคกับตัวละครมารวมร่างกัน แล้วสร้างเป็นตัวละครตัวนี้ออกมา



อ้างอิงจาก : https://storylog.co/story/5c91cf330dac61427d41bc63