ร้านหนังสือดอกหญ้า สาขาสุราษฎร์ธานี : ความพยายามสู่ความสำเร็จ กว่าจะมาเป็นร้านหนังสือดอกหญ้า สาขาสุราษฎร์ธานี

ร้านหนังสือดอกหญ้า สาขาสุราษฎร์ธานี

ร้านหนังสือดอกหญ้า สาขาสุราษฎร์ธานี

กว่าจะมาเป็นร้านหนังสือดอกหญ้า สาขาสุราษฎร์ธานี ที่เป็นที่รู้จักของคนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ในวันนี้ คุณศุภชัย ปฐมขจรกุล และฤทัยพัชร์ พุทธรักขิโต สองสามีภรรยาเจ้าของร้านได้บอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นด้วยความภาคภูมิใจว่า "ตอนแรกเปิดร้านหนังสือเพราะอยากให้ลูกอยู่กับหนังสือ รักการอ่าน แต่ตอนนี้อยากให้คนในต่างจังหวัดได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่ดี ๆ เหมือนกรุงเทพฯ"

ด้วยความที่ทั้งสองท่านมีงานประจำที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร จัดการ การบริการ ที่เกี่ยวข้องกับการเงินอยู่แล้ว จึงมีความสนใจอยากใช้สถานที่ซึ่งเดิมเป็นที่เก็บของให้เป็นประโยชน์ จึงได้คิดทำร้านหนังสือ โดยติดต่อสมัครเข้าเป็น Franchise ของดอกหญ้า หลังจากที่ได้ศึกษาและเก็บสถิติของร้านดอกหญ้าสาขาอื่นแล้วเห็นว่ามีผู้เข้าใช้บริการในระดับที่น่าพอใจ เมื่อแรกเริ่มที่ได้ติดต่อไปที่ดอกหญ้า ทางดอกหญ้ายังไม่ตกลง จนกระทั่งระยะเวลาผ่านไป 8 เดือน ทางดอกหญ้าจึงได้ลงมาดูสถานที่และตกลงที่จะให้เป็นร้านสาขาได้ เสียค่า Franchise ในตอนนั้น(ตุลาคม 2539) ประมาณ 400,000 บาท รวมค่าใช้จ่ายเริ่มต้นในการเปิดร้านก็ประมาณ 1,250,000 บาท ซึ่งตอนนั้นทางดอกหญ้าจะดำเนินการให้หมดทุกอย่าง ส่วนที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองก็คือส่วนประกอบการ ได้แก่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน ค่าแอร์

ในความแตกต่างของนโยบายในการบริหารร้านระหว่างยุคที่ก่อตั้งกับยุคปัจจุบัน นั้น คุณวัลลภา เธอบอกว่า "ก็มีประเด็นเนื้อหาของสังคมที่เปลี่ยนไปเพราะยุคนั้นเป็นยุคเผด็จการ แต่ว่ายุคนี้เป็นยุคโลกาภิวัฒน์ ภายใต้กระแสบริโภคนิยม เราจึงอยากให้คนเริ่มหันมามองวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เราอยากตั้งคำถามเกี่ยวกับกระแสโลกาภิวัฒน์ ที่ขับเคลื่อนโดยทุนนิยม ซึ่งคนส่วนใหญ่ในยุคนี้มักไม่ค่อยให้ความสนใจในประเด็นของความคิดอ่าน ส่วนประเด็นด้านเนื้อหาในร้านหนังสือของยุคก่อนกับยุคนี้ ก็ย่อมแตกต่างกันไป ดังจะเห็นได้ว่าในยุคนั้น อ.สุลักษณ์ มีแนวคิดที่จะทำให้ร้านหนังสือมีหนังสือไม่ต้องเยอะ โดยเลือกสรรเฉพาะหนังสือที่มีคุณภาพและไม่มีที่อื่น แต่เรากลับรู้สึกว่าต้องหาหนังสือเข้ามาในร้านให้มาก ๆ เพื่อลูกค้าจะได้เกิดความรู้สึกว่ามีหนังสือให้เลือกหลากหลาย และในปัจจุบันทางร้านเองก็ยังคงคัดเลือกหนังสือที่เป็นทางเลือกอยู่ แต่จะเน้นหนักในทางสังคม ศาสนา ปรัชญา เศรษฐกิจ ประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นกระแสหลัก ส่วนหนังสือที่เป็นวัยรุ่นมาก ๆ จะไม่มีเพราะทางร้านไม่มีพื้นที่ให้วางหนังสือมากนัก

จากจุดเริ่มต้น มาจากดอกหญ้านี้เองทำให้ทุกอย่างดูเหมือนลงตัวไปหมด แม้ทั้งคู่จะไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำร้านหนังสือมาก่อนเลยแต่ด้วยการที่ได้ทางดอกหญ้าให้คำแนะนำ และวางแผนการตลาดมาให้ตลอดทั้งปี เช่น การจัดโปรโมชั่น แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อดอกหญ้าประสบปัญหา ทำร้านทางร้านต้องเริ่มล้มลุกคลุกคลานมา และดำเนินงานในหลาย ๆ ส่วนด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสำนักพิมพ์ต่าง ๆ เอง เพื่อรับหนังสือมาจำหน่าย

เมื่อถามถึงจุดเด่น ของร้านก็ได้รับคำตอบว่า คือ ความเป็นร้านดอกหญ้า สัญลักษณ์ของดอกหญ้า ซึ่งเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงมานาน และทางร้านเองก็พยายามจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้ได้ 2 ครั้ง ภายในรอบปีหนึ่ง ส่วนประเภทหนังสือที่ทำรายได้ให้ทางร้านมากที่สุด คือ วรรณกรรม และนวนิยาย

ส่วนแนวทางในการบริหารจัดการร้านนั้น ทางร้านจะเน้นความพึ่งพอใจของลูกค้าเป็นหลักสำคัญ กล่าวคือการบริการ จะต้องประทับใจลูกค้า ช่วยลูกค้าในการตอบสนองความต้องการได้สูงสุด สามารถแนะนำหนังสือให้ลูกค้าได้ ส่วนกรณีที่ปัจจุบันนี้จะมีร้านหนังสือของสำนักพิมพ์ใหญ่มาเปิดร้านจำหน่ายหนังสือเองทำให้ ในจังหวัดต่าง ๆ ทำให้ส่งผลกระทบต่อร้านหนังสือทั่วไป ตลอดจนสำนักพิมพ์เล็ก ๆ ในด้านการจัดจำหน่ายด้วย ซึ่งทางร้านเองก็ยอมรับว่ามีผลกระทบบ้าง ในส่วนของการพิจารณาคัดเลือกหนังสือเข้าร้านนั้น ทางร้านจะพิจารณาจากหนังสือที่สำนักพิมพ์ติดต่อเข้ามาโดยมีการจัดหนังสือเป็นหมวดหมู่ และอ่านดูก่อนแล้วจึงแนะนำลูกค้า ซึ่งพบว่าได้ผลลูกค้าจะให้ความสนใจดี แต่หากยังจำหน่ายไม่ได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า จึงพิจารณาที่จะไม่รับมาวางจำหน่าย

ฝากข้อคิดถึงคนที่อยากทำร้านหนังสือ ถ้าจะลงทุนธุรกิจหนังสือสมควรเริ่มทำ ได้ เพื่อรองรับเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวขึ้นมา แต่จะต้องมีเรียนรู้กับระบบการทำงาน มีความรู้ด้านหนังสือพอสมควร ศึกษากลุ่มเป้าหมายว่าลูกค้า จะเป็นคนกลุ่มไหน ระบบการสั่งซื้อ มีใจรัก ในงานหนังสือ ใจรักในงานบริการ ซึ่งจะช่วยให้ร้านเราอยู่รอดได้ในระยะยาวด้วย แม้จะเป็นร้านเล็ก ๆ หรืออาจทำในลักษณะร้าน Franchise ก็ได้ เพราะสะดวกดี และร้านจะเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปได้ง่ายและรวดเร็ว

ส่วนมุมมองของอนาคตร้านหนังสือในบ้านเรา ทางร้านดอกหญ้า สาขาสุราษฎร์ธานี ก็มองว่า มีหลายระดับมุมมอง แต่จริง ๆ แล้วร้านหนังสือควรมีหนังสือที่ครบถ้วน สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกระดับ

Writer

Sirirat Soonsakul

นักอยากเขียน ผู้รักการสะสมท้องฟ้าสีวนิลลา และใช้หมูกระทะเยียวยาจิตใจ